อย่างไรก็ตามในการคัดเลือกมรดกภูมิปัญญาแต่ละชนิด จะมีคณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมประจำทั้งกรุงเทพฯและประจำจังหวัด โดยมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมคัดเลือกด้วย

          สำหรับแนวทางจัดการตามหลักเกณฑ์ในพ.ร.บ.ดังกล่าว เน้นการทำงาน 5 ด้านได้แก่ 1. ส่งเสริมและสนับสนุนให้สร้างการมีส่วนร่วมของเครือข่ายในชุมชน โดยให้ชุมชนกลุ่มบุคคล บุคคล องค์กรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมมีส่วนร่วม 2. ส่งเสริมให้มีการถ่ายทอดความรู้ทักษะความชำนาญ และสร้างผู้ปฏิบัติสืบทอดจัดกิจกรรมการถ่ายทอดความรู้ทั้งในระบบการศึกษาและนอกระบบการศึกษา โดยจัดให้มีแหล่งเรียนรู้มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมบนพื้นที่ของชุมชน หรือ จัดตั้งเป็นแหล่งเรียนรู้ของชมรมโดยเชิญ ศิลปิน พ่อเพลง แม่เพลงปราชญ์ในชุมชน ผู้ประกอบพิธีกรรมเป็นผู้ถ่ายทอดให้ผู้สนใจคนรุ่นใหม่ 3.ส่งเสริมให้เกิดการอนุรักษ์ ฟื้นฟู สร้างค่านิยมของเยาวชนรุ่นใหม่ให้หันมานิยมไทย 4. ส่งเสริมด้านวิชาการโดยส่งเสริมให้มีการศึกษาวิจัย การจำแนก การรวบรวมจัดเก็บข้อมูล การจัดทำฐานข้อมูล รวมถึงการศึกษาวิจัย และ 5. ส่งเสริมให้มีการประกาศเกียรติคุณเพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติ โดยการประกาศเชิดชูเกียรติชุมชน ตลอดจนองค์กรที่ทำคุณประโยชน์เกี่ยวกับการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม

          นายวีระกล่าวว่า ปี 2560 ได้มีกรอบการเสนอรายชื่อมรดกภูมิปัญญาที่จับต้องไม่ได้ต่อยูเนสโก 5 เรื่องได้แก่ โขน มวยไทย นวดไทย อาหารสำรับไทย และโนรา ซึ่งโขนคาดว่าจะจัดทำเอกสารแล้วเสร็จพร้อมนำเสนอในเดือนมี.ค.2560 สำหรับการประโคมย่ำยามนั้นอยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดและคุณลักษณะตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องโดยมอบให้ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ไปประสานงานกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่เพื่อเตรียมกับเสนอขึ้นทะเบียนในระดับชาติก่อน