เตรียมหารือเพิ่มสิทธิสวัสดิการรับนโยบาย “ปั๊มลูกเพื่อชาติ”

by ThaiQuote, 14 กุมภาพันธ์ 2560

นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวในโซเชียลฯเรียกร้องขอสวัสดิการรองรับนโยบายมีลูกเพื่อชาติและมีคุณภาพ ว่านโยบายการมีลูกเพื่อชาตินั้นเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การพัฒนาอนามัยการเจริญพันธุ์แห่งชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2560-2569) ว่าด้วยการส่งเสริมการเกิดและการเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพ โดยการเกิดทุกรายต้องมีความพร้อมไม่ใช่ว่าดำเนินการป้องกันท้องไม่พร้อมในแม่วัยรุ่น ต้องส่งเสริมในกลุ่มแม่ที่มีความพร้อมด้วยเพื่อทารกแข็งแรงพร้อมเติบโตอย่างมีคุณภาพต่อไป และที่ขาดไม่ได้คือเมื่อทารกคลอดออกมาในยุคปัจจุบันที่พ่อแม่ยังต้องทำงานหาเลี้ยงชีพนั้นจะต้องมีสิทธิสวัสดิการต่าง ๆ เพื่อรองรับเรื่องนี้

          นพ.วชิระกล่าวอีกว่า ยุทธศาสตร์ฯ 10 ปีได้กำหนดไว้ชัดเจนคือการพัฒนาและปรับปรุงระบบการจัดสวัสดิการสังคมเพื่อเอื้อให้ครอบครัวพร้อมจะมีบุตร ให้หญิงได้รับการดูแลตั้งแต่ระยะก่อนสมรส ระยะก่อนตั้งครรภ์ ระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอด และระยะหลังคลอด รวมทั้งการจัดสวัสดิการในด้านต่าง ๆเพื่อให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่ครอบครัวในการเลี้ยงดูบุตร ซึ่งหากสรุปต้องพัฒนาระบบสำคัญคือ 1.ระบบการทำงาน ปัจจุบันให้สิทธิแม่ลาคลอดได้ 3 เดือนเพื่อเลี้ยงดูลูกโดยได้รับเงินเดือนตามปกติ ล่าสุดสำหรับสิทธิข้าราชการสามารถลาเพิ่มเติมได้อีก 150 วันแต่ไม่ได้รับเงินเดือน และพ่อให้สิทธิลาได้ 15 วัน

          ส่วนจะมีการขยายสิทธิไปยังภาคเอกชนหรือไม่ นพ.วชิระกล่าวว่าจะมีการหารือกันผ่านคณะกรรมการอนามัยเจริญพันธุ์แห่งชาติที่มีกรมอนามัยเป็นเลขานุการและมีหน่วยงานต่าง ๆ กระทรวงที่เกี่ยวข้อง เช่น สภาปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติร่วมด้วย ซึ่งจะมีการประชุมในเดือนเมษายนนี้

          “นอกจากนี้ในที่ทำงานจะต้องมีมุมให้นมแม่หรือสถานรับเลี้ยงเด็กอ่อน หรือศูนย์เด็กอ่อนในที่ทำงาน ซึ่งหลายแห่งมีการดำเนินการแล้ว โดยแห่งที่ยังไม่มีก็จะมีการเดินหน้าขอความร่วมมือแต่ก็ต้องมีการหารือกันก่อน ซึ่งศูนย์รับเลี้ยงเด็กเล็กที่กรมอนามัยก็มีการจัดบริการไว้เช่นกัน 2.ระบบการเงินและภาษี ปัจจุบันรัฐบาลโดยกระทรวงการคลังและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)ได้จัดโครงการให้เงินช่วยเหลือครอบครัวละ 600 บาท/เดือนซึ่งให้ในกลุ่มที่มีรายได้น้อยประมาณปีละ 1 แสนคู่สามีภรรยา รวมทั้งภาษีของไทยเดิมมีการลดหย่อนภาษีให้กับครอบครัวที่มีลูก 2 คน ตอนนี้ไม่จำกัดจำนวนคนเป็นต้น” นพ.วชิระกล่าว

          นพ.วชิระยังกล่าวต่อว่า และ3.ระบบสุขภาพ ปัจจุบันมีการดูแลสุขภาพตั้งแต่ระยะก่อนตั้งครรภ์จนถึงหลังคลอดอย่างการแจกวิตามินแสนวิเศษอย่างโฟเลตและเหล็กนั้น ได้ตั้งเป้าแจกปีละ 3 แสนคน เพื่อเป็นการป้องกันความพิการตั้งแต่กำเนิด รวมทั้งในอนาคตจะผลักดันให้ชุดสิทธิประโยชน์ของกองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า กองทุนประกันสังคม และกองทุนสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ ครอบคลุมให้แก่ผู้ที่พร้อมอยากมีบุตร แต่ไม่สามารถมีบุตรได้ หรือมีบุตรยาก โดยจะมีระบบปรึกษาและวางแผนช่วยการมีบุตร โดยการเพิ่มสิทธิสวัสดิการต่างๆ นั้น จะต้องหารือกับคณะกรรมการว่าจะเดินหน้าอย่างไร

          ขณะที่นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่าเนื่องในวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ กรมอนามัยได้จัดกิจกรรมที่เขตบางรัก รณรงค์โครงการ “ส่งเสริมสาวไทยแก้มแดง มีลูกเพื่อชาติ ด้วยวิตามินแสนวิเศษ” จัดเจ้าหน้าที่เพื่อให้ความรู้ในเรื่องต่าง ๆ โดยเฉพาะการวางแผนครอบครัวพร้อมกับแจกวิตามินโฟลิกและธาตุเหล็กให้คู่รักที่มาจดทะเบียนสมรสในวันดังกล่าว สำหรับการแจกวิตามินโฟลิกได้แจ้งไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ทั่วประเทศแล้ว หากคู่สมรสใดสนใจสามารถเข้าไปติดต่อรับได้ที่ สสจ.ทั่วประเทศ

          “ในวันแห่งความรักปีนี้ กรมอนามัยขอแนะนำให้ประชาชนร่วมทานวิตามินโฟลิกและธาตุเหล็ก เพื่อแก้ปัญหาและลดความเสี่ยงการพิการของเด็กในครรภ์ แต่ไม่ใช่ว่าเรารณรงค์ในเด็กวัยรุ่นให้มีลูก เนื่องจากกลุ่มนี้ยังอยู่ในภาวะที่ยังไม่พร้อม แต่เป็นการส่งเสริมสำหรับคนที่อยากตั้งครรภ์และมีความพร้อมมากกว่า ในส่วนของวัยรุ่นไม่อยากให้ชิงสุกก่อนห่าม และควรสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งระหว่างมีเพศสัมพันธ์” นพ.ธงชัยกล่าว

Tag :