9 เมนูอาหารต้านหวัด ประโยชน์มากกว่าที่คิด

by ThaiQuote, 30 พฤษภาคม 2560

ช่วงอากาศเปลี่ยนเข้าสู่ฤดูฝน อาจทำให้ใครต่อใครหลายคนเกิดอาการเจ็บป่วย ไม่สบายเป็นหวัดได้ง่าย หากไม่สบายขึ้นมาจะหวังพึ่งพาแต่เพียงยาปฏิชีวนะอย่างเดียวคงไม่ได้ ควรเลือกทานอาหารให้เป็นประโยชน์ด้วยเพื่อเป็นการช่วยรักษาสุขภาพของเราให้แข็งแรงอีกทางหนึ่ง วันนี้จึงมีเมนูอาหารที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน และแก้อาการหวัดมาฝาก อย่างน้อย ๆจะได้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกช่วยระงับยับยั้งอาการ

1. ซุบไก่ร้อน ๆ ตามรายงานวิจัยพบว่าซุปไก่มีฤทธิ์ยับยั้งการเคลื่อนที่ของเม็ดเลือดขาว ชนิดที่เรียกว่านิวโทรฟิลด์ไปยังเนื้อเยื่อปอด ทำให้ลดกระบวนการอักเสบในปอดและลดอาการไอได้ โดยตำรับซุปไก่ที่ใช้ศึกษาประกอบด้วยไก่ มะเขือเทศ หอมหัวใหญ่ มันฝรั่ง ก้านขึ้นฉ่าย ผักชี แครอท หัวผักกาด เกลือ และพริกไทย นอกจากนั้นซุปไก่ที่รวมถึงต้มยำไก่ แกงไก่ ยังมีสมุนไพรที่ช่วยต้านหวัดรวมอยู่อีกหลายชนิด

2. อาหารรสเผ็ด ช่วยให้จมูกโล่ง หายคัดจมูก ก็คืออาหารรสเผ็ดร้อนที่มีพริกเป็นส่วนประกอบ ไม่ว่าจะเป็นพริกขี้หนู พริกชี้ฟ้า พริกแห้ง รวมไปถึงพริกไทย และสมุนไพรรสเผ็ดร้อนอื่น ๆ เราสามารถกินเผ็ดอย่างเอร็ดอร่อยและหลากหลายในอาหารหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นพริกขี้หนูในต้มยำ พริกชี้ฟ้าในผัดเผ็ด พริกไทยในแกงเลียง พริกแห้งในลาบ หรืออาหารที่มีส่วนผสมของสมุนไพรรสเผ็ดร้อนต่าง ๆ เช่น ขิง กะเพรา โหระพา เป็นต้น

3. กระเทียม เป็นยาดีช่วยลดอาการหวัดได้ เมื่อมีอาการหวัดให้นำกระเทียม 1 กลีบเล็กมาหั่นเป็นชิ้นบาง ๆแล้วใช้ช้อนบี้ให้แตกเติมน้ำร้อนลงไป 1 ถ้วย ปิดฝาทิ้งไว้ 5 นาที จากนั้นเติมน้ำผึ้งและมะนาวเล็กน้อย ดื่มวันละ 2 ถ้วยจะช่วยบรรเทาอาการได้ เมื่อหายแล้วให้ดื่มต่ออีกสัก 3 วัน วันละ 1 ถ้วย หรือถ้าติดใจจะดื่มเป็นประจำก็ได้เพราะกระเทียมจะช่วยป้องกันและรักษาไข้หวัดได้อย่างดี นักวิจัยชาวจีน ดร.เบนจามิน เลา แห่งมหาวิทยาลัยโลมาลินดาในแคลิฟอร์เนียได้ศึกษายารักษาโรคตามแบบแพทย์ตะวันออกมานาน ได้ทำการศึกษาแล้วพบว่า “กระเทียม” มีกำมะถันเป็นองค์ประกอบ ซึ่งออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสหวัดได้โดยตรง และยังช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวได้

4. ดื่มน้ำมาก ๆ ข้อนี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ป่วยเลยก็ว่าได้ ผู้ป่วยควรดื่มน้ำมาก ๆ เวลาที่เป็นหวัด แต่ไม่ควรดื่มน้ำเย็นซึ่งจะทำให้เจ็บคอและไอมากขึ้น ควรจิบน้ำอุ่นหรือน้ำสมุนไพรอุ่น ๆ ตลอดเวลา เช่น น้ำตะไคร้ น้ำมะตูม น้ำใบเตย น้ำเก๊กฮวย จะช่วยให้ชุ่มคอ บรรเทาอาการไอ และละลายเสมหะ การจิบน้ำอุ่นบ่อยๆ ร่วมกับการรักษาความสะอาดภายในช่องปาก จะช่วยให้อาการเจ็บคอทุเลาและฟื้นตัวได้เร็วขึ้นด้วย

5. ผลไม้ตระกูลส้ม จะมีวิตามินซีสูงโดยเฉพาะผู้ที่สูบบุหรี่หรืออยู่ในแวดวงคนสูบบุหรี่ บุหรี่สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นหวัดและทำให้ร่างกายต้องการวิตามินซีสูงขึ้น วิตามินซีป้องกันหวัดได้ ถ้ารู้ตัวว่าร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ติดหวัด เป็นหวัดง่ายก็ต้องกินผักและผลไม้ให้วิตามินซีมาก ๆ เช่น ส้ม มะละกอสุก มะม่วง ฝรั่ง สับปะรด ส้มโอ ชมพู่ พุทรา มะขาม แตงโม ฯลฯ

6. ขิง ช่วยขับเหงื่อ มีฤทธิ์แก้หวัด เย็น (หวัดเย็น คือรู้สึกหนาว มีไข้ต่ำ ไม่ค่อยมีเหงื่อออก มีเสมหะมักเหลวใส) และยังช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง ท้องอืด และข้ออักเสบได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจอีกด้วย เมื่อเริ่มจะรู้สึกเซื่อง ๆ เฉื่อยชา หนาว ๆ มีน้ำมูกใสไหลจี๊ด ๆ หรือเริ่มมีเสมหะอย่าได้ชะล่าใจ ให้รีบต้มน้ำขิงดื่มเลย

7. น้ำผักผลไม้สด ผักผลไม้ในกลุ่มที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ เช่น เบตาแคโรทีน (วิตามินเอ) วิตามินซี วิตามินอี จะช่วยกำจัดสิ่งแปลกปลอมหรือเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ป้องกันการติดเชื้อ ผักและผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น แครอท ผักใบเขียวจัด ส้ม ฝรั่ง องุ่น แคนตาลูป มะละกอสุก เป็นต้น สามารถเลือกตามที่ชอบ และนำมาปั่นทานกันได้เลย เน้นว่าควรเป็นผักและผลไม้สด เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระกันแบบเต็ม ๆ หรือถ้าไม่อยากเสียเวลาปั่น ก็ทานผลไม้สดๆ ก็ได้

8. ชาร้อน ชาร้อนทุกชนิดล้วนมีสารโพลิฟีนนอล สารแอนติออกซีเดนต์ในพืชที่ช่วยลดอาการติดเชื้อ ทำให้เยื่อบุโพรงจมูกชุ่มชื้น หายใจสะดวก ควรชงชาในน้ำร้อนตั้งทิ้งไว้ราว 1 นาที จะดึงคุณสมบัติ แก้หวัด ชาได้ดีที่สุด

9. โยเกิร์ต มีการศึกษาพบว่าโยเกิร์ตช่วยเพิ่มการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว และช่วยเพิ่มการสร้างสารแอนติบอดีบางชนิดได้ การศึกษากับอาสาสมัครทั้งคนหนุ่มและคนสูงอายุพบว่าการรับประทานโยเกิร์ตทุกวันเป็นเวลา 1 ปี ช่วยลดอาการจากหวัดและภูมิแพ้ ผู้ป่วยหายเร็วขึ้น และร้อยละ 25 เป็นหวัดน้อยลง เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับประทาน แนะนำให้เลือกโยเกิร์ตรสธรรมชาติชนิดไขมันต่ำ น้ำตาลน้อย และมีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ซึ่งยังมีชีวิตอยู่ จะได้ประโยชน์อย่างเต็มที่

ขอบคุณที่มาจาก : www.emaginfo.com / M thai.com

Tag :