จับตา“หญิงหน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ก้าวย่าง 2 เด้งสู่ถนนสายการเมืองยุคสีเขียว

by ThaiQuote, 20 กรกฎาคม 2560

ได้กล่าวถึงพรรคประชาธิปัตย์ต่อสนามการเมืองท้องถิ่น กรณีเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) กันมาแล้ว มาถึงคิวของพรรคเพื่อไทยที่ถือเป็นยาขมขนานใหญ่สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ ที่ผ่านมาทั้งสองพรรคขับเคี่ยวกันมาอย่างดุเดือดเข้มข้น โดยเฉพาะเป้าหมายใหญ่อย่างในสนามเลือกตั้งกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.หรือแม้แต่สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.)

สำหรับพรรคเพื่อไทยแล้วหากย้อนกลับไปแต่หนหลังตั้งแต่ครั้งพรรคไทยรักไทยเรื่อยมา หนึ่งไม่มีสองต้องยกให้กับ “เจ้าแม่ตัวจริงเสียงจริง” อย่าง “คุณหญิงหน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่อาสานำทัพสู้ศึกเลือกตั้งมาโดยตลอด แม้ในห้วงเวลาที่สถานการณ์การเมืองไม่เอื้อประโยชน์ต่อพรรคการนิ่งสงบสยบการเคลื่อนไหวแล้วไปสู่งานจิตอาสาด้านพระพุทธศาสนาก็ดี หรือแม้แต่การทำงานในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิไทยพึ่งไทย  ไปจนกระทั่งการสมัครเรียนปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) ซึ่งขณะนี้กำลังทำวิทยานิพนธ์เรื่อง “พุทธวิธีในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งการเมืองไทย” โดยมีแกนหลักจากพระราชดำรัสของในหลวงรัฐกาลที่ 9 เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2549 เรื่องคุณธรรม 4 ประการ เป็นพระราชดำรัสช่วงที่คนไทยเริ่มทะเลาะกัน ล้วนแล้วเป็นห้วงเวลาที่รอจังหวะเพื่อก้าวสู่เวทีการเมืองระดับชาติในอนาคต ที่ว่ากันว่าหนทางข้างหน้าเมื่อสิ้นยุค “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”แล้ว น่าจะสดใสสำหรับหญิงเหล็กคนนี้ 

แต่ถึงกระนั้นสำหรับการเมืองในสนามเล็กอย่างกรุงเทพฯ ท่ามกลางความสงบแต่ยังคงมีการเคลื่อนไหวเพื่อประเมินสถานการณ์ทางการเมืองแบบเงียบ ๆกับแกนนำภาคกทม.บางคนที่ถูกเรียกพบเป็นระยะ ๆ อาทิ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีตส.ส.กทม. , นายเอนก หุตังคบดี อดีตส.ส.กทม. หรือแม้แต่ นายอุดมเดช รัตนเสถียร อดีตส.ส.นนทบุรี โดยใช้บ้านพักย่านลาดปลาเค้าเป็นสถานที่ในการพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนข่าวสาร ท่ามกลางกระแสข่าวที่มีมาอย่างต่อเนื่องว่าเธอคนนี้จะก้าวขึ้นเป็นประมุขพรรคคนใหม่สืบทอดอำนาจคนใน “ชินวัตร” แต่จนแล้วจนรอดกระแสข่าวที่ถูกจุดออกมาก็เงียบหายไป   

ล่าสุดแหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยกล่าวกับสำนักข่าว Thai quote ไว้น่าสนใจทีเดียว โดยระบุว่าข่าวการขึ้นชั้นผู้นำพรรคคนใหม่ของ “คุณหญิงหน่อย” ส่อเค้าเป็นจริงมากขึ้น เมื่อมีการนัดเคลียร์ใจกันแล้วกับเจ้าของพรรคตัวจริงเสียงจริง อย่าง “คุณหญิงอ้อ” พจมาน ชินวัตร ด้วยเหตุผลสำคัญคือหากพรรคเพื่อไทยยังคงดึงดันใช้บริการคนชินวัตรนั่งประมุขพรรคเช่นเดิม  โอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์การเมืองซ้ำ ๆซาก ๆดังที่เกิดขึ้นกับ “ทักษิณ ชินวัตร” และ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”ย่อมไม่มีวันจักจบจักสิ้น สู้ยอมถอยออกมาแล้วเฟ้นหาแกนนำคนสำคัญที่มีบารมีในการประสานสถานการณ์ไม่ดีกว่าเหรอ ส่วนเรื่องอื่น ๆไว้รอจังหวะและโอกาสน่าจะเหมาะสมกว่า 

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเมื่อมีกรณีกระแสข่าวที่ปรากฏบนหน้าสื่อเร็ว ๆนี้ รวมถึงแอดมินแฟนเพจคุณหญิงหน่อยได้แพร่ภาพและข่าวคณะเดินทางไปสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามคำเชิญของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิเทศสัมพันธ์ พรรคคอมมิวนิสต์จีน ถ้าจะว่ากันตรง ๆเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาและน่าจะมีนัยสำคัญทางการเมืองอย่างไม่อาจปฏิเสธ 

การก้าวขยับของ “คุณหญิง” ในช่วงที่ผ่านมา แม้จะได้รับการปฏิเสธต่าง ๆนา ๆจากเธอคนนี้ แต่โดยข้อเท็จจริงแล้วต้องยอมรับว่าด้วยสถานการณ์ทางการเมือง ณ เวลานี้คงไม่มีใครเหมาะสมไปกว่า ด้วยประสบการณ์ทางการเมืองที่ยาวนาน จากการเป็นส.ส.สมัยแรกตั้งแต่อายุ 31 ปีต่อเนื่องจนปัจจุบัน แถมยังเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพรรคไทยรักไทย (ทรท.) มาด้วยกัน ที่สำคัญว่ากันว่าเธอมี “คอนเน็กชั่น” กับผู้คนหลากหลายวงการไม่เว้นแม้แต่นายทหารในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช. เธอจึงเหมาะเหม็งในการนำพรรคยุคที่ทหารครองเมือง

          เราก็ไม่ได้ตั้งเป้าว่าต้องเป็นโน่นเป็นนี่ แต่เราอยู่ในองค์กรหากมีสิ่งที่ทำแล้วองค์กรและประเทศดีขึ้น เราก็จะเสนอทำเต็มที่ การเมืองสำหรับตัวเองก็อิ่มตัวพอสมควร เราทำงานการเมืองตั้งแต่อายุ 31 จนวันนี้อายุ 56 มีหลายสิ่งที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์แค่นี้ก็เป็นบุญของชีวิตแล้ว การเป็นหัวหน้าพรรคต้องมองอีกหลาย ๆ อย่าง เพราะวันนี้ยังมองไม่เห็นเลยว่าจะมีการเลือกตั้งตอนไหน ดังนั้นจึงสบาย ๆ ไม่อะไรมาก

เป็นคำกล่าวของ “คุณหญิง” ที่ได้กล่าวกับสื่อฉบับหนึ่งไว้น่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะในห้วงเวลาใกล้จะก้าวสู่โหมดเลือกตั้งในสนามการเมืองท้องถิ่น เชื่อเหลือเกินว่าจะเป็นสถานการณ์ครั้งสำคัญที่ทำให้เธอต้องก้าวขยับแสดงออกถึงความสามารถในการนำพาทัพ ซึ่งจะเป็นบทพิสูจน์ต่ออนาคตในการก้าวขึ้นเบอร์ 1 ในสนามการเมืองระดับชาติ ที่ดูเหมือนว่า ณ เวลานี้ถนนทุกสายทุกภาคของประเทศ โดยเฉพาะนักการเมืองในสังกัดพรรคเพื่อไทยน่าจะสะกดชื่อของเธอถูกต้องกันบ้างแล้ว หลังจากที่รันเวย์ภายในพรรคถูกเคลียร์เป็นที่เรียบร้อยจากเจ้าของพรรคตัวจริง ทุกอย่างคงเหลือเพียงแค่รอจังหวะและเวลาเท่านั้นเอง    

Tag :