รัฐบาลพอใจไทยเลื่อน 20 อันดับความง่ายในการทำธุรกิจ

by ThaiQuote, 1 พฤศจิกายน 2560

“สมคิด”พอใจผลจัดอันดับ Doing Business ธนาคารโลก ไทยเลื่อนอันดับดีขึ้น 20 อันดับจาก 46 ในปีที่ผ่านมาเป็น 26 ในปีนี้ พร้อมสั่งให้สศช.นำรูปแบบการทำงานไปใช้กับการยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศที่จัดโดย WEF ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการติดตามความคืบหน้าแนวทางการยกระดับการจัดอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ (Ease Doing Ease Doing Business) ว่าคะแนนที่ได้รับการจัดอันดับ Doing Business 2018 ของธนาคารโลก โดยอันดับดีขึ้น 20 อันดับ เป็นอันดับที่ 26 เป็นที่น่าพอใจ จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่อันดับ 46 นับว่าไม่ธรรมดาจากที่ก่อนหน้านี้ประเทศไทยไม่เคยได้ปรับปรุงมาก่อน ทั้งนี้เป็นผลจากการสั่งการของนายกรัฐมนตรีและการร่วมมือดำเนินการของทุกภาคส่วน สำหรับรูปแบบการทำงานที่มีกระทรวงการคลังและคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) จัดให้มีการประชุมติดตามการดำเนินการปรับปรุงในด้านต่างๆทุกๆ 2 เดือน และเชิญผู้แทนจากธนาคารโลกเข้ามารับทราบการปรับปรุงด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้อันดับของไทยได้รับการจัดอันดับที่ดีขึ้น ซึ่งนับเป็นเรื่องสำคัญเพราะนักลงทุนให้ความสำคัญในเรื่องนี้มาก ขณะที่ประเทศในกลุ่มอาเซียนมีการแข่งขันกันสูงในเรื่องนี้ โดยประเทศอินโดนีเซียก็ขยับอันดับขึ้นมาเร็วเช่นกัน ขณะที่ประเทศไทยดำเนินการได้เร็วกว่า และอันดับตามหลังเพียงประเทศมาเลเซียเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยต้องการเชื่อมโยงการการปรับปรุงที่ดีนี้ไปยังเรื่องการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศที่ World Economic Forum :WEF จัดด้วย ดังนั้นจึงมอบหมายให้นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) นำรูปแบบการทำงานในลักษณะนี้ไปใช้กับการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ที่ WEF จะจัดขึ้นในปีหน้าด้วย ซึ่งจะมีเรื่องที่ต้องดำเนินการใน 12 ด้าน ขณะที่ นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(ก.พ.ร.) กล่าวว่า ในปีหน้าเพื่อให้อันดับความยากง่ายในการทำธุรกิจของไทยดีขึ้นไปอีก จะดำเนินการใน 4 ด้านด้วยกันได้แก่ ปฎิรูปกฎหมายที่ล้าสมัยโดยจะตัดที่สิ่งที่เป็นอุปสรรคออกไป มีการตั้งคณะทำงานยกร่างพ.ร.บ.หลักประกันธุรกิจ มีการลงทุนระบบคอมพิวเตอร์ให้ผู้ประกอบการมีความสะดวกในการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจในที่เดียว ลงทะเบียนครั้งเดียว เปลี่ยนการยืนยันตัวตนของบุคคลไปสู่ระบบดิจิทัล จากปัจจุบันต้องนำสำเนาบัตรประชาชนไปแสดง ซึ่งคาดว่าหลังวันที่ 30 มิ.ย.ปีหน้า จะดำเนินการในหน่วยงานที่พร้อมก่อนได้

Tag :