โฉมใหม่ไทยแลนด์ คลังเตรียม Reform ประเทศไทย

by ThaiQuote, 7 กุมภาพันธ์ 2561

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลังเข้าร่วมการเสวนาหัวข้อ "ไทยแลนด์ เทคออฟ 2018" โดยกล่าวว่าสิ่งที่อยากจะทำมีอยู่ 3 เรื่อง เรื่องแรกคือการแก้ไขปัญหาความยากจน ซึ่งขณะนี้มีคนมาลงทะเบียน 11.4 ล้านคน สิ่งที่เราตั้งใจคือต้องการพัฒนาให้คนเหล่านี้หายจน โครงการในเฟส 2 เราตั้งเป้าคนอีกประมาณ 1.4 ล้านคน โดยรวมคนที่มีรายได้ต่ำกว่าแสนเข้ามาด้วย โครงการก็คือจะให้มีเจ้าหน้าที่ดูแลทุกคน เพื่อที่จะดูแลว่าเขามีคุณสมบัติอะไรบ้าง และมีความต้องการอะไร อยู่ตรงแหล่งไหน และต้องทำอะไรบ้าง เช่น คนที่อยู่ในภาคเกษตร ให้ธกส.มาช่วย บางส่วนเป็นเกษตรแปลงใหญ่ นำมาร่วมกันได้ก็นำมาร่วมกัน ภาคที่ไม่ใช่เกษตรก็จะเกิดขึ้นเหมือนกัน โดยร่วมกับกระทรวงแรงงาน  สภาอุตสาหกรรม หอการค้า จัดหาดูพื้นที่ที่อยู่ มีงานอะไรที่สามารถจะจัดเขาลงไปทำได้บ้าง จากการพูดคุยภาคเอกชนบอกว่ามีศักยภาพรับคนได้ 1 ล้านคนเพื่อมาทำงาน คนไม่มีรายได้ ไม่มีความรู้ก็นำไปฝึกอบรม คนไม่อยากเป็นลูกจ้าง ก็จะจัดให้เป็นผู้ประกอบการ อันนี้ใช้เงิน 35,000 ล้าน เป็นงานภาคแรกที่จะทำ โครงการที่สอง ทำในเชิงพื้นที่ ร่วมมือกับมหาดไทย ตรวจสอบว่าแต่ละพื้นที่ต้องการอะไรบ้าง เช่นไทยนิยมยั่งยืน ช่วยพัฒนาให้เขาอยู่ได้ดีขึ้น ในการทำแบบนี้เพื่อให้              Reform ประเทศ เปลี่ยนภาคเกษตร บางส่วนที่ซัพพลายมาก ก็เปลี่ยนเสีย นโยบายเราเดินมาถูกทาง แต่จำนวนไม่มากพอทำให้ไม่เป็นผล เช่นยางไม่ได้ผล ก็ส่งเสริมให้เปลี่ยนไปปลูกทุเรียน สิ่งเหล่านี้ต้องใช้เงิน ซึ่งรัฐบาลพร้อม ด้วยหลักการทำนโยบายการคลังที่ผ่อนคลาย ปีนี้จะมีการเจริญเติบโตกว่าปีที่แล้ว ในภาครัฐที่เติมเงินเข้าไปแล้ว ภาคเอกชนก็เข้ามาช่วย อดีตเราภูมิใจกับอีสเทิร์นซีบอร์ด ทุกอย่างดีมาหมด พอนานวันเข้า พลังค่อยๆ หมด เราพยายามสร้างใหม่ EEC หวังเป็นเครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนประเทศ เกิดซัพพลายเชน เกิดรายย่อย สร้างความมั่งคั่ง ไหลจากข้างบนสู่ข้างล่าง ถ้าเราปล่อยไหลตามธรรมชาติต้องใช้เวลา ด้วยลักษณะประเทศ เราไม่สามารถรอได้ รัฐบาลจึงต้องมีโครงการปั้มความมั่งคั่งไปสู่ข้างล่าง ระดับล่างขณะนี้มีปัญหา แต่รัฐบาลไม่อยู่เฉย เราต้องสร้างให้เกิดความมั่งคั่งก่อน ต้องสร้างน้ำก่อน เพราะฉะนั้นรัฐบาลต้องผลักดันโครงการใหญ่ต่างๆ ไหลลงไปข้างล่าง ภาคเอกชนที่ได้ประโยชน์จากส่วนนี้ ต้องมีโครงการพี่ช่วยน้อง ทำหน้าที่ช่วยสังคม ก่อให้เกิด Eco system ของตัวเอง ให้มีความเข้มแข็งขึ้น สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้น เป็นสิ่งที่มุ่งหวังอย่าให้รัฐทำแต่ฝ่ายเดียว   ในส่วนของคลัง ปีหน้าเรื่องแรกที่พยายามจะทำคือการให้ภาครัฐใช้เพย์เม็นต์-อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด แน่นอนต้องประสานกับทุกหน่วยงาน อีกฝั่งคือประชาชนที่จะมาติดต่อหน่วยงานราชการต้องชำระด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ต้องประสานงานกับธนาคาร สมัยใหม่เป็นคิวอาร์โค้ท ทำให้ชำระเงินได้ง่ายขึ้น รัฐบาลจะเป็นตัวนำ การก้าวไปสู่สังคมไร้เงินสดก็จะเร็วขึ้น เรื่องต่อมาคือการแก้ไขหนี้นอกระบบให้เป็นศูนย์ เป็นนโยบายที่จะทำอย่างเข้มข้น มีหลายจังหวัดสามารถเจรจากับหนี้นอกระบบ บางจังหวัดเป็นศูนย์แล้ว การ Take off มั่นคง แน่นอน เที่ยวนี้ของประเทศไทยมั่นคง ไม่มีความเสี่ยง ฐานะการคลังของเราดีมาก มีสำรอง 2 แสนกว่าล้านบาท มีดุลการค้าเป็นบวก ดุลชำระเงินเป็นบวก ภาระหนี้ 40 กว่าเปอร์เซ็นต์ เป็นการนำพาประเทศไทยไปสู่สถานภาพใหม่ ส่วนเรื่องมาตรการภาษีจะไม่มีการปรับอัตรา แต่สิ่งที่พยายามทำคือขยายฐาน หาคนที่ไม่เสียภาษีให้เสียภาษีให้ถูกต้อง เพื่อสร้างความเป็นธรรม รัฐบาลออกโครงการบัญชีเดียวเพื่อให้ทุกคนปรับตัว ผิดในอดีตไม่ว่า เริ่มต้นทำในสิ่งที่ถูก ของเก่าไม่ตรวจสอบ ปรากฏว่ามีคนจดทะเบียน 5 แสนกว่าราย ส่วนใหญ่เป็นเอสเอ็มอี มาถึงวันนี้มีการประมวลผลครึ่งหนึ่งทำได้ถูก นอกจากนี้กระบวนการมีหลายอย่างที่ผูกไว้ด้วยกัน ปี 2562 แบงก์ต้องใช้งบที่ส่งสรรพากรเป็นตัวพิจารณา ซึ่งจะมีผลต่อการกู้เงิน สิ่งที่สรรพากรเข้าไปแนะนำ หวังว่าการแนะนำทำให้ทุกคนเข้าสู่ระบบ ภาษีที่จะทำคือ อี-คอมเมิร์ช เป็นกระบวนการค้าที่หลุดออกจากระบบ สิ่งนี้พยายามร่างกฎหมายในการเก็บภาษีระบบนี้ เพราะคนรุ่นใหม่ซื้อของจากอี-คอมเมิร์ช ซื้อถูก ส่งรวดเร็ว คนเหล่านี้ไม่เคยเสียภาษี แล้วร้านค้าปรกติที่ต้องเสียแวต จะอยู่ได้อย่างไร เพื่อความเป็นธรรม เราต้องสร้างให้เกิดความเป็นธรรม เป็นอีกสิ่งที่เราทำ สำหรับระบบการแลกเปลี่ยนทางออนไลน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เราจะไปหยุดคริบโตเคอร์เรนซี่ไม่ได้ เพราะฟินเท็กซ์มาแล้ว และในฟินเท็กซ์ต้องใช้คริบโตฯไปซื้อ ถ้าเราต้องการพัฒนาในสิ่งเหล่านี้ ก็ต้องยอมรับ แต่สิ่งสำคัญต้องสามารถที่ควบคุมได้ เพราะตัวนี้ยังไม่ใช้เงินตราที่ใช้ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นเพียงสัญลักษณ์การบาร์เตอร์เพื่อแลกสินค้าทางออนไลน์เท่านั้น ไม่ได้ชำระเงินได้ตามกฎหมาย แบงก์ชาติจึงไม่เกี่ยวข้อง คนที่เข้าไปเกี่ยวข้องได้ตรงที่สุดน่าจะเป็น กลต. เพราะเป็นหน่วยงานที่ต้องดูแลเรื่องหลักทรัพย์ โดยเฉพาะไอซีโอ และคริบโตเคอร์เรนซี่ด้วย ตอนนี้ก็ให้ไปร่างเรื่องระเบียบปฏิบัติและกฎหมายต่างๆ ประเทศไทยจะไม่ปิด แต่ต้องควบคุม เพราะไม่เช่นนั้นก็จะเป็นช่องทางของการฟอกเงิน อีกประมาณ 1 เดือน กลต.น่าจะมีหลักการเหล่านี้ออกมา

Tag :