ศ.นพ.ประกิต  วาทีสาธกกิจ  เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เปิดเผยว่า  ปัจจุบันจากการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิต และปรับขึ้นภาษียาสูบ  ทำให้ราคาบุหรี่ซองมีราคาเพิ่มขึ้นจากเดิมมาก โดยมีราคาต่ำที่สุดซองละ 60 บาท เป็นผลทำให้เกิดปรากฎการณ์ผู้บริโภคหันไปบริโภคของทดแทนโดยเฉพาะยาเส้นมวนเอง ซึ่งมีราคาถูกกว่าบุหรี่ซองหลายเท่า   ทั้งนี้พบว่ามีจำนวนคนไม่น้อยที่เลิกสูบบุหรี่ซองแต่หันมาสูบยาเส้นเพราะราคาถูกและมีความเชื่อว่ายาเส้นอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ "ความเชื่อว่าอันตรายจากยาเส้นนั้นน้อยกว่าบุหรี่ เป็นความเชื่อที่ผิด แต่ความจริงแล้ว อันตรายเท่ากัน ตายเหมือนกัน  เป็นมะเร็ง เป็นถุงลมโป่งพอง  เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง ทุกข์ทรมานเหมือนกัน  ผลกระทบของกฎหมายทำให้เกิดการย้ายกลุ่มผู้สูบจากบุหรี่มาเป็นยาเส้น  ซึ่งไม่ใช่เรื่องดี ตอนนี้จำนวนผู้สูบทั้งประเทศมีประมาณ  11 ล้านคนและเกือบครึ่งหนึ่งเป็นผู้สูบยาเส้นมวนเอง"     สำหรับการแก้ไขปัญหาประการหนึ่งคือ กรมสรรพสามิตจะต้องปรับระบบการจัดเก็บภาษียาเส้นใหม่  โดยขณะนี้ บุหรี่ 1ซองมีราคา 60 บาท แต่ยาเส้นมีจำหน่ายในซองละ 5 -12 บาท  ซึ่งเมื่อยาเส้นมีราคาถูก  จะส่งผลให้คนหันมาบริโภคยาเส้นเพิ่มมากขึ้น   อย่างไรก็ตามอันตรายจากควันมือสองยังคงเป็นปัญหาที่ส่งผลต่อสุขภาพของผู้ไม่เสพ แม้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีมาตรการต่างๆ เพื่อมุ่งหวังให้ลดจำนวนผู้สูบลงอย่างน้อยปีละ 1% และป้องกันผู้สูบหน้าใหม่ที่เป็นกลุ่มเยาวชน   โดยล่าสุดพบว่าในปี  2560 อัตราส่วนผู้ไม่สูบบุหรี่ต่อผู้สูบในประเทศไทยเพิ่มขึ้นเป็น 4 ต่อ 1 แต่หากยาเส้นยังมีราคาถูกก็อาจจะทำให้แนวทางแก้ไขที่ผ่านมาไม่ได้ผลเท่าที่ควร