แต่ต้องโอนกลับคืนให้กับข้าราชการ ใน สำนักงานพระพุทธศาสนา จำนวน 9 ล้านบาท โดย ทางวัดห้วยตะแกละ ได้รับเม็ดเงินเพียง  1 ล้านบาทเท่านั้น....ซึ่งเป็นที่มาของ คดีใหญ่โต ครึกโครม สั่นสะเทือน วงการสงฆ์ หรือ "ดงขมิ้น" เมืองไทย ดังนั้น ก่อนอื่น เบื้องต้น  ต้องขอ ยกมือ พนม ”ก้มกราบ” ท่านพระครูใบฎีกา อนันต์ เขมานันโท เพราะ ถ้าไม่มีท่าน จุดชนวน เปิดโปง เชื่อว่า พุทธศาสนา คงจะมัวหมองต่อไปอีกนาน เพียงแค่ 1 เดือน การสืบสวนของตำรวจ ปปป.ก็พบข้อมูลรายชื่อวัดล็อตที่ 1 จำนวน 12 แห่ง โดยมีข้าราชการ และประชาชนร่วมทุจริตรวม 10  ราย มูลค่าความเสียหาย 60 ล้านบาท  จากนั้น เจ้าหน้าที่พบวัดอีก 23 แห่ง ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในกรณีทุจริตเงินทอน และในครั้งนี้ พบผู้มีส่วนทุจริต เป็นข้าราชการ  13 คน  พระภิกษุสงฆ์ 4 รูป และพลเรือน 2 คน มูลค่าความเสียหาย 141 ล้านบาท เมื่อการสืบสวนเส้นทางการเงิน เริ่มสาวลึกลงไป ก็พบรายชื่อวัดที่มีส่วนเกี่ยวข้อง 3 แห่ง ได้แก่ วัดสามพระยา วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร และ วัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร ที่สำคัญพบพระชั้นผู้ใหญ่ ระดับกรรมการมหาเถรสมาคม ที่มีส่วนในการทุจริต ถึง 5 รูป สำหรับรูปแบบทุจริตรอบนี้ พบว่าแตกต่างจาก 2 ครั้งที่ผ่านมา ที่ข้าราชการจะเสนองบประมาณให้วัดไปบูรณปฏิสังขรณ์ แต่ต้องโอนเงินกลับคืนกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ แต่ครั้งนี้ พบว่าเงินที่ได้รับมาใช้เพื่อทำโครงการเผยแผ่กิจการพระพุทธศาสนา ซึ่งต้องกระจายสู่วัดสาขา กลับถูกโอนเข้าบัญชี ฆราวาส ในหลายๆบัญชี กว่า 69 ล้านบาท ที่สำคัญ เจ้าหน้าที่พบเอกสารหลักฐาน บัญชีเงินฝากธนาคารของเจ้าอาวาสวัดสระ เกศฯ จำนวน 10 บัญชี มีเงินกว่า 130 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้อายัดเงินไว้ทั้งหมด ล่าสุด ตำรวจกองปราบปราม ได้ควบคุมตัว นายธงชัย สุขโข หรือ "เจ้าคุณธงชัย" พระพรหมสิทธิ (ธงชัยสุขญาโณ) อดีต กรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน ทุจริตเงินทอนวัด  ส่วน พระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) อดีตกรรมการ มส. อีกหนึ่งราย ที่ถูกศาลออกหมายจับคดีฟอกเงิน ยังหลบหนีการจับกุมอยู่ ก่อนหน้านี้ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ เรื่อง ถอดถอนสมณศักดิ์ ระบุว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีพระราชโองการฯ ให้ถอดถอนสมณศักดิ์ พระที่ต้องคดีทุจริต 7 รูป  ในจำนวนนี้ เป็นพระระดับกรรมการมหาเถรสมาคม 3 รูป ได้แก่ พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร ,พระพรหมเมธี (จำนงค์ เอี่ยมอินทรา) วัดสัมพันธวงศารามและ พระพรหมดิลก (เอื้อน กลิ่นสาลี) วัดสามพระยา           "...ด้วยปรากฏว่ามีกรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาว่ากระทำการทุจริตและถูก ดำเนินคดีอาญาในความผิดฐานสนับสนุนเจ้า พนักงานยักยอกทรัพย์ และปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต อาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายอาญา  และความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ ตามความในมาตรา ๕ ตรี แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕  จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ถอดถอนสมณศักดิ์..." ย้อนอดีต สำหรับ "เจ้าคุณธงชัย" หรือ  พระพรหมเมธีนั้น คือ โฆษกกรรมการมหาเถรสมาคม ผู้เคยเข้าไปร่วมงานวันเกิด"พระธัมมชโย"ที่ เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายเป็นประจำ และได้ใช้สถานะโฆษกมหาเถรสมาคม ออกมาแถลงฟอกคดี "ธัมมชโย" และบอกปัดข้อเสนอให้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของมหาเถระในยุคนั้น           โดยอ้างว่า การตรวจสอบว่าพระมีเงินอยู่เท่าไหร่ เป็นการตรวจสอบศรัทธาของญาติโยม !!! และ ถ้าย้อนไปอีก ปี พ.ศ. 2555 "เจ้าคุณธงชัย" ได้จัดงานวันเกิดให้ตัวเองอย่างใหญ่โต โดยมี นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และ  นายพนม ศรศิลป์ รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ  ยกคณะไปถวายสักการะ ที่วัดสัมพันธวงศ์ด้วย ภาพที่ปรากฏต่อ สายตาสาธารณชน "เจ้าคุณธงชัย" ขึ้นเสลี่ยง โดยมีคณะลูกศิษย์ ที่ เลื่อมใส ศรัทธา หาบหาม  แห่แหนไปบนท้องถนน ถึงวันนี้ สังคมยังไม่ทราบว่า ท่านมีเงินฝากในบัญชีส่วนตัวเท่าไหร่? มีทรัพย์สินรายการอื่นๆ อะไรอีกมาก? มหาศาลขนาดไหน? คำถาม นี้ มีคำตอบ จาก  คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ หรือ ปปง. ซึ่งได้อายัดบัญชีเงินฝาก มูลค่ารวมกว่า 132 ล้านบาท โดยกรณีทุจริตเงินทอนวัด ที่พัวพันกับวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร เกี่ยวข้องกับงบประมาณแผ่นดิน 2 ปีงบประมาณ ประกอบด้วย ปี 2557 งบประมาณสนับสนุนโรงเรียนปริยัติธรรม จำนวน  87.5 ล้านบาท ทั้งๆ ที่วัดสระเกศไม่มีการจัดตั้งโรงเรียนดังกล่าว แต่กลับได้รับงบประมาณดังกล่าว  ขณะที่ ปี 2559 แบ่งเป็น 2 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการอบรมคุณธรรม งบประมาณ 37.2 ล้านบาท ถูกนำไปกระจายให้วัด  2 แห่งในต่างจังหวัด รวม 8 ล้านบาท และได้มีการทอนคืนวัดสระเกศ 29.2 ล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเงินที่ทอนคืนวัดนั้นได้มีการคืนให้สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ หรือ อยู่ที่ผู้ใด 2.โครงการศูนย์กลางเผยแผ่พระพุทธศาสนา งบประมาณ 32.5 ล้านบาท เจ้าหน้าที่พบว่า งบดังกล่าวไม่ได้นำไปใช้บำรุงศาสนาตามวัตถุประสงค์โครงการ แต่ถูกโอนเข้าบัญชีของนางสาวนุชรา สิทธินอก  25 ล้านบาท และ นายธีระพงษ์ พันธุ์ศรี อีก จำนวน 5 ล้านบาท ทำให้ทั้ง 2 เข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงิน          สำหรับขั้นตอนต่อไปหลังจากนี้ ขึ้นอยู่กับ กระบวนการยุติธรรม จะต้องทำหน้าที่ ให้ สังคมไทยตระหนัก ถึง “ผลกรรม” ที่เกิดขึ้นแล้ว"ทันตาเห็น" ไม่ว่าจะเป็น “ฆาราวาส” หรือ “พระเถระ” ก็ตาม !