พาณิชย์เปิด 3 เว็บค้าขายแข่ง Alibaba-Amazon

by ThaiQuote, 7 มิถุนายน 2561

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวในงาน e-Commerce ว่า โลกยุคดิจิทัลได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบการค้าและการดำเนินธุรกิจให้ก้าวไกลอย่างไร้พรมแดน การค้าออนไลน์นับเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการดำเนินธุรกิจที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยตลาดที่มีขนาดใหญ่ มีพลังขับเคลื่อนมหาศาล ประกอบกับความรวดเร็วในการตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างทันท่วงที ทำให้การค้าออนไลน์เป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย และสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคในเศรษฐกิจยุคดิจิทัล ตลอดจนเชื่อมั่นว่าจะเป็นช่องทางการค้าที่ทรงประสิทธิภาพมากในโลกอนาคต   "การเข้ามาของอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่จากฝั่งจีน อาทิ บริษัท อาลีบาบา (Alibaba) และบริษัท เจดี ดอทคอม (JD.com) และเว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซจากฝั่งสหรัฐอเมริกา อาทิ บริษัท อเมซอน (Amazon) และ อีเบย์ (eBay) เป็นสัญญาณเตือนให้ประเทศไทย ทั้งภาครัฐและเอกชน จำเป็นต้องเร่งผนึกกำลังกันเพื่อให้การค้าออนไลน์และระบบนิเวศน์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของไทยมีความเข้มแข็งและสร้างภูมิคุ้มกันที่ทนต่อการเปลี่ยนแปลง และตั้งรับการเข้ามาของแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของโลกได้"นายสนธิรัตน์กล่าว พร้อมกล่าวว่า   กระทรวงพาณิชย์เล็งเห็นถึงโอกาสในการเติบโตของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซและการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการเพิ่มมูลค่าทางการค้า นาไปสู่บทบาทของกระทรวงพาณิชย์ ด้านการขับเคลื่อนการค้าในรูปแบบใหม่ ใน 2 ภารกิจหลัก คือ 1.การเป็นผู้นำในการพัฒนาการค้าในรูปแบบอี-คอมเมิร์ซผ่านการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์พัฒนาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของประเทศโดยความร่วมมือกับทุกกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการสร้าง e-Commerce ecosystem ของประเทศ และ 2. การสร้างแฟลตฟอร์มที่เป็นศูนย์กลางการค้าออนไลน์ของประเทศที่จะเป็น National e-Marketplace เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าให้แก่ผู้ประกอบการไทยผ่าน ไทยเทรดดอทคอม (Thaitrade.com)แพลตฟอร์มของประเทศที่ช่วยเชื่อมผู้ขายไทยกับผู้ซื้อทั่วโลก   รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า "ทั้ง 2 ภารกิจนี้กระทรวงพาณิชย์ก็ได้บูรณาการทำงานอย่างใกล้ชิดกับภาครัฐและเอกชน ทั้งในและต่างประเทศทั่วโลก ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีการเปิดตัวแพลตฟอร์ม Thaitrade For All โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นก้าวแรกในการยกระดับให้ Thaitrade.com เป็นตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของประเทศ เพื่อรองรับการซื้อขายสินค้าและบริการในประเทศและต่างประเทศอย่างครบวงจร"   นายสนธิรัตน์ กล่าวต่อไปอีกว่า การเปิดตัวเว็บไซต์ย่อย 3 เว็บไซต์ ประกอบด้วย 1.Thaitrade.com - B2B e-Marketplace ขายส่งระหว่างประเทศ ที่มาพร้อมบริการใหม่ e-Quotation และ Instant Sourcing Service ,2.Thaitrade SOOK (Small Order Ok) - B2C e-Marketplace ขายปลีกระหว่างประเทศ และ 3.Thaitrade Shop ช้อปครบจบในคลิกเดียว B2C e-Marketplace ซื้อขายภายในประเทศ ที่จะรองรับการชำระเงินออนไลน์ทุกรูปแบบ และเชื่อมต่อการขนส่งภายในประเทศ รวมถึงการพัฒนาเป็น Gateway ให้แพลตฟอร์ม ทั้งของภาครัฐและเอกชนของไทย มาเชื่อมต่อระบบการค้นหาสินค้าเพื่อส่งข้อมูลสินค้ามาแสดงผลบน Thaitrade Shop