จากกรณีที่นายพิสิฐชัย สว่างวัฒนากร พนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ กองคดีภาษีอากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่าจะมีการจับกุม เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ วัดพิชยญาติการามวรวิหาร วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร และวัดราชสิทธารามราชวรวิหาร ในคดีเงินทอนวัด ซึ่งภายหลังเจ้าตัวอ้างว่าเป็นการเข้าใจคลาดเคลื่อน แต่ดีเอสไอมีคำสั่งให้นายพิสิฐชัยพ้นหน้าที่จากกองคดีภาษีอากร ไปปฏิบัติงานที่สำนักงานผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ พร้อมร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ซึ่งในวันนี้จะนำตัวนายพิสิฐชัยมารับทราบข้อกล่าวหาความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบเฟซบุ๊ก "พิสิฐชัย สว่างวัฒนากร" ที่เป็นต้นตอของโพสต์ดังกล่าว พบว่านอกจากจะมีข้อความที่เกี่ยวกับการจับกุมคดีเงินทอนวัดแล้ว ยังพบว่ามีการโพสต์ข้อความที่น่าสนใจ เช่น วันที่ 11 ม.ค. โพสต์ข้อความน้อมรำลึกในโอกาสครบ 90 ปี ชาตกาล สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร, วันที่ 14 ม.ค. โพสต์ข้อความ "ผมมีปัญหาเพราะเป็นพวกพระ ครับผมเป็นพวกพระพุทธเจ้า ซึ่งผมยินดีมาก และจะไม่ขอเปลียนแน่นอน จะไม่เจริญก้าวหน้าก็ไม่เป็นไร ตายเป็นตาย" วันที่ 28 ม.ค. โพสต์ข้อความ "พุทธศาสนาเดือดร้อน ลุกเป็นไฟ กรรมนี้ใครก่อ หลวงพี่ หลวงพ่อต้องคดี ทุกข์เดือดร้อน ความเป็นธรรมหดหาย ทุกข์เศร้าหมอง คนพุทธตีกัน วุ่นวายไปหมด คนรับผิดชอบ ได้ดีเสวยสุข งานการทำไม่เป็น ได้เป็นใหญ่ ฉิบ ... แน่ คราวนี้" อีกข้อความระบุ "โลกก็วุ่น ธรรมก็เดือด จะรอด สามเดือนไหมนี้" และอีกข้อความ ระบุ "การข่าวสถานการณ์ศาสนา สถานการณ์พลิกกลับ กลุ่มที่คอยถล่มพระ ซึ่งมีทั้งคนและคนที่บวชพระ หลายคน หลายกลุ่ม ตอนนี้หันมากัดกันเองคล้ายๆ สุนัขบ้า (อำนาจ) กรรมจริงๆ อีกไม่นานคงเจริญ ครับ" วันที่ 30 ม.ค. โพสต์ข้อความ "เมืองไทยเป็นเมืองพุทธ ซึ่งเป็นจุดแข็ง มีหลักการสันติเป็นหัวใจ เมืองไทยจึงไม่มีเรื่องที่จะเกิดอะไรรุนแรงได้ครับ หายห่วง" วันที่ 31 ม.ค. โพสต์ข้อความ "เมืองไทย เมืองพุทธ สันติ ประนีประนอม ไม่รุนแรง บ้านเมืองจึงสงบร่มเย็น ไม่มีอะไรครับ เดี่ยวเลือกตั้งกันครับ" วันที่ 8 ก.พ. โพสต์ข้อความ "ช่วงนี้อากาศแปรปรวน ลมมักเปลียนทิศ โดยเฉพาะอะไรที่เป็นทุ่งๆ ต้องระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะแถวๆ ทุ่งสาย 4" (ที่ตั้งของพุทธมณฑล และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ) วันที่ 17 ก.พ. โพสต์ข้อความ "ข่าวครับ ตำรวจกำลังพิจารณาวัดต่างๆ ที่ท่านหรือท่านอื่นๆ นำเงินไปช่วย (วัดที่รับเงิน วัดหนึ่งขอและนำไปให้อีกวัดหนึ่ง) โดยจะดำเนินคดีวัดที่รับเงินข้อหาฟอกเงินด้วย มีหลายสิบวัดครับ" วันที่ 17 ก.พ. โพสต์ข้อความ "ข้าราชการเบิกเงินค่ารถประจำตำแหน่งแล้วตามกฎหมายต้องขับรถส่วนตัวไปราชการเองการทียังใช้รถของทางราชการพร้อมคนขับ เป็นกรณีทุจริตซึ่งโทษร้ายแรงถึงออกจากราชการ ครับ" วันที่ 18 ก.พ. โพสต์ข้อความ "คนมีทั้ง ดีและไม่ดี พระมีทั้งดีและไม่ดี การตรวจสอบพระที่ไม่ดีจึงเข้มข้น ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศนี้สนับสนุน และเป็นอาหารอันโอชของฝ่ายตรวจสอบ ที่แสวงหาความดังและอื่นๆ หากเทียบก็เหมื่อนอาหารยังมีอีกหลายเมนู พระดังๆ ใหญ่ๆ ที่เป็นอลัชชีหรือไม่ดี ยังรอคิว ถูกเขาเชือดครับ แค่เริ่มต้นครับ ยังมีอีกมาก แต่ก็ขอสนับสนุนพระดีครับ" วันที่ 19 ก.พ. โพสต์ข้อความ "วันนี้จะมีสื่อฯ ไปร้อง ผอ.พศ. ที่ ป.ป.ช. กรณีสงสัยว่า 1. ได้เบิกค่ารถประจำตำแหน่ง ผอ.พศ. หรือไม่ 2. หากมีการเบิกค่ารถประจำตำแหน่งแล้วการใช้รถของทางราชการไปกาญจนบุรี โดยมีพนักงานขับรถและเกิดไปชนคนตาย ผิดหรือไม่" อีกข้อความระบุ "วันนี้ จะมีสื่อฯ ไปร้อง DSI เรื่องสงสัยว่ามีวัดใหญ่หลายวัด มีพฤติกรรมน่าสงสัย เรื่องการเบิกงบประมาณจาก สำนักพุทธฯ" วันที่ 22 ก.พ. โพสต์ลิงก์ประวัติโดยสังเขป พระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร จากเว็บไซต์วัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร ระบุว่า "ในโอกาสอายุมงคลวัฒนะ 77 ปี พระพรหมเมธีครับ" วันที่ 25 ก.พ. โพสต์ข้อความ "การใช้งาน การทำงาน ต้องใช้งานคนทำงานเป็น เอาคนทำงานไม่เป็นมาทำงาน ประเทศชาติ ฉิบหาย เสียหายร้ายแรง กรรมหนักครับ กรรมหนักที่สุด" เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีภาพที่นายพิสิฐชัย นำครอบครัวเข้าพบกับ อดีตพระพรหมสิทธิ (เจ้าคุณธงชัย) หรือนายธงชัย สุขโข ขณะเป็นเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2560 และเข้าพบกับ อดีตพระพรหมเมธี (เจ้าคุณจำนงค์) หรือนายจำนงค์ เอี่ยมอินทรา ขณะเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2561 ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลวันสิ้นปี และวันขึ้นปีใหม่ ทั้งนี้ ทั้งนายธงชัย และนายจำนงค์ เป็นผู้ต้องหาคดีร่วมกันฟอกเงิน จากกรณีการทุจริตงบประมาณของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือคดีเงินทอนวัด ซึ่งนายธงชัยได้ถูกลาสิกขา และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ ขณะที่นายจำนงค์หลบหนีคดีอยู่ในประเทศเยอรมนี พร้อมทำเรื่องขอลี้ภัยโดยอ้างเรื่องการเมือง