5 ช่วงเวลาดี้...ดี...ถ้าคุณเลิกบุหรี่ได้ !

by ThaiQuote, 13 มิถุนายน 2561

แต่ถ้าหากคุณมีเป้าหมายอย่างแน่วแน่ที่จะเลิกบุหรี่ ชีวิตและสุขภาพของคุณจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ไม่เชื่อมาดูพัฒนาการเหล่านี้ได้เลยค่ะ วันที่ 1 ความดันเลือดและชีพจรจะกลับสู่ภาวะปกติ เชื่อหรือไม่หลังเลิกบุหรี่มวนสุดท้ายเพียง 20 นาที ความดันเลือดลดลงสู่ระดับปกติ  การเต้นของ ชีพจรช้าลงสู่ระดับปกติ  อุณหภูมิของมือและเท้าเพิ่มขึ้น และเมื่อผ่านพ้นไป 8 ชั่วโมง ระดับคาร์บอนมอนนอกไซด์ในเลือดลดลง , ระดับออกซิเจนในเลือดเพิ่มขึ้นถึงระดับปกติ และถ้าหากพ้น 24 ชั่วโมงหลังเลิกบุหรี่ โอกาสของการเกิดหัวใจวายลดลงค่ะ สาเหตุก็เพราะคนสูบบุหรี่ส่วนใหญ่จะมีภาวะความดันโลหิตสูง นำไปสู่ความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ องค์การอนามัยโลกระบุว่า 1 ใน 4 ของคนเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจมีพฤติกรรมการสูบบุหรี่   หลังการสูบบุหรี่ 2-3 วัน ปลายประสาทเริ่มเจริญเติบโต ความสามารถในการรับรู้กลิ่นและรสดีขึ้น ร่างกายจะสดชื่นขึ้น ไม่มีสารนิโครตินในเลือด ช่วง 1-2 วันแรกของการงดบุหรี่เป็นช่วงที่ทรมาน แต่เมื่อร่างกายไม่ได้รับสารนิโครตินเป็นเวลา 2-3 วัน เลือดในร่างกายก็จะสะอาดขึ้น มีประสิทธิภาพในการดูดซึมออกซิเจนมากขึ้น ทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นขึ้นมากกว่า 1-2 วันแรก   เมื่อพ้น 14-3 เดือน การทำงานของปอดดีขึ้น ระบบการไหลเวียนของคุณจะดีขึ้น และปอดของคุณจะทำงานดีขึ้นด้วยเช่นกัน การเดินและการออกกำลังกายจะง่ายขึ้นสำหรับคุณ ภายในเดือนแรก ๆ การผลิตเสมหะของคุณได้ลดลง และคุณจะไม่ไอหรือหายใจลำบากเยอะเหมือนแต่ก่อน ทั้งนี้เพราะร่างกายได้ทยอยขจัดสารต่างๆ โดยเฉพาะทาร์ที่ติดอยู่บนผนังปอดของคุณออกไป   ถ้าหากสามารถหยุดได้ 1 ปี จะลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ จากรายงานการศึกษาในสหรัฐอเมริกาพบว่า ในกลุ่มผู้สูบหรี่เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจขาดเลือดมากกว่าคนไม่สูบบุหรี่ถึง 2.4 เท่า และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูบบุหรี่ที่เป็นโรคความดันเลือดสูงหรือมีไขมันในเลือดสูง จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจขาดเลือดถึง 1.5 เท่า แต่หากผู้สูบบุหรี่นั้นเป็นทั้งความดันเลือดสูงและไขมันในเลือดจะเสี่ยงต่อโรคหัวใจถึง 8 เท่าของคนทั่วไป โดยเฉลี่ยแล้ว ผู้ติดบุหรี่จะทำให้เส้นเลือดเสื่อมและเกิดความตีบตันเร็วมากกว่าผู้ไม่สูบถึง 10-15 ปี ดังนั้นการเลิกบุหรี่ 1 ปีจะลดความเสี่ยงเหล่านี้ลงไปได้   ถ้าเลิกได้ 5 ปี ลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองและโรคมะเร็ง จากการวิจัยพบว่าผู้ที่สูบบุหรี่บ่อยๆ และสูบเป็นประจำมักเสี่ยงต่อภาวะหลอดเลือดสมองตีบและแตกมากกว่าคนปกติสูงถึง 10 เท่า อีกทั้งยังอาจทำให้เซลล์สมองฝ่อและเสื่อมได้ง่ายกว่าปกติ   ถ้าเลิกได้ 14-15 ปี สุขภาพจะกลับมาใกล้เคียงกับคนที่ไม่เคยสูบบุหรี่ ความเสี่ยงของคุณในการเป็น โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด สามารถเทียบกับคนที่ไม่เคยสูบบุหรี่แม้แต่มวนเดียว คนที่หยุดสูบบุหรี่ก่อนอายุ  51 ปี ตัดโอกาสของการเสียชีวิตในอีก 15 ปีข้างหน้าถึงครึ่งหนึ่ง ผู้ที่หยุดสูบบุหรี่ในวัย 60 กว่าๆ ก็ยังมีโอกาสเสียชีวิตลดลงถึง 23% เทียบกับผู้ที่สูบบุหรี่จนถึงวัย 70 กว่า