สนธิรัตน์ปลื้ม เยือนอังกฤษ-ฝรั่งเศส เป็นไปตามเป้า

by ThaiQuote, 29 มิถุนายน 2561

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์  รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการเยือนสหราชอาณาจักรและสาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 18-26 มิถุนายน 2561ว่า การเยือนในครั้งนี้ทางกระทรวงพาณิชย์มุ่งหวังให้สหราชอาณาจักรและสาธารณรัฐฝรั่งเศสเป็น Strategic Partnership ส่งเสริมและสนับสนุนภาคเอกชนไทยเกิดความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนและการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีชั้นสูงของประเทศทั้งสอง เช่น อุตสาหกรรมอากาศยานและการบิน เทคโนโลยีสารสนเทศ Creative Economy พลังงาน การศึกษา โลจิสติกส์และภาคบริการ เป็นต้น มาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลกได้ และสามารถพัฒนาไปสู่การเป็นประเทศไทย 4.0 ตามนโยบายรัฐบาล ในการเยือนสหราชอาณาจักร ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก GDP 2.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ รมว.กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้หารือกับสมาชิก TUBLC (Thai-UK Business Leadership Council) ได้แก่ ThaiBev, CP Foods U.K., Intercarabao, Bangkok Bank, Thai Airways, และ Loxley  โดยต้องการให้เป็นเวทีที่จะขยายความร่วมมือทางธุรกิจ และเตรียมความพร้อมในการเจรจา FTA ระหว่างไทยกับสหราชอาณาจักร รวมถึงปัญหาอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจในสหราชอาณาจักร ซึ่งสามารถใช้เวที TUBLC ในการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหา เช่น ปัญหาการนำเข้าไก่ใน UK ภายใต้โควต้า EU เป็นต้น ทั้งนี้ รมว. พาณิชย์ ได้พบหารือกับ The Federation of Small Businesses (FSB) เพื่อหารือแนวทางที่จะร่วมมือกัน ส่งเสริมธุรกิจ SMEs และ Micro businesses ระหว่างไทยและสหราชอาณาจักร โดยได้หารือและแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับโครงสร้างขององค์กร การให้บริการแก่ SMEs ในด้านธุรกิจ กฎหมายและการเงิน ปัญหาและอุปสรรคของ SMEs รวมถึงแนวทางความร่วมมือระหว่าง FSB กับ MOC BIZ Club ภายใต้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า อาทิ การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน การจัดการฝึกอบรมแก่ SMEs ของไทย เป็นต้น นอกจากนี้ ทางกระทรวงพาณิชย์ ได้จัดพิธีลงนาม MOU โดยมี รมว.พาณิชย์เป็นสักขีพยาน รวม 6 ฉบับ ในส่วนกระทรวงพาณิชย์ 2 ฉบับ กับ Tesco PLC โดยจะนำสินค้าจากเกษตรกร/ SMEs ไทยมาร่วมพัฒนากับ Tesco Innovation Centre (ตามนโยบาย Thailand 4.0) และนำมาส่งเสริมการจำหน่ายในต่างประเทศ รวมถึงสหราชอาณาจักร และการลงนามระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกับ British Council Thailand ร่วมมือพัฒนา Creative Economy สินค้า Handicraft & Design และพัฒนา Creative hub ในไทย ในส่วนเอกชน ทางบริษัท PTTGC มีการลงนามรวม 3 ฉบับ กับ บริษัท Digital Barriers เพื่อนำนวัตกรรมระบบความปลอดภัย digital มาใช้กับแนวท่อการส่งผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ไปยังลูกค้า และลงนามกับบริษัท Arturius International เพื่อนำนวัตกรรมระบบความปลอดภัย Digital มาใช้กับ facilitiesของ บริษัทฯ และฉบับที่ 3 ลงนามกับองค์กร UK Export Finance เพื่อให้การสนับสนุนด้านแหล่งเงินทุน (financing) การใช้ U.K. local content ในโครงการใหญ่ของ PTTGC ที่สหรัฐอเมริกาฯ รวมถึง MOU ของบริษัทการบินไทย ลงนามกับบริษัท Rolls Royce ร่วมมือพัฒนาขีดความสามารถให้ MRO ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้จัดกิจกรรมชูนโยบาย Thailand Kitchen of the World และ พิธีมอบประกาศ Thai Select (ร่วมกับงาน Eat Thai Visit Thai ของ ททท.) นำเสนอ Creative เมนู ที่เน้นการใช้สมุนไพรไทย คือ Miang with smoked eel (เมี่ยงปลาไหล) มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 70 คน ประกอบด้วยผู้ประกอบการร้านอาหารไทย ผู้นำเข้าสินค้าไทย ATBUK นักธุรกิจ UK และนักธุรกิจไทยใน U.K. รวมถึงสื่อไทยและ U.K. ทั้ง Magazine และ bloggers และได้จัดคณะไปศึกษาดูงานด้าน Creative Economy ณ British Council ในการส่งเสริมด้านเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ (Creative Economy) ได้แก่ ด้านสถาปัตยกรรม ดีไซน์ และแฟชั่น รวมถึงโครงการส่งเสริม Creative Economy ของ British Council ในประเทศไทยหลายโครงการ และแนวทางความร่วมมือกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และ British Council Thailand ได้มีการลงนาม MOU ร่วมกัน เพื่อส่งเสริมความร่วมมือ และการพัฒนา Creative Economy ระหว่างกัน สำหรับการเยือนสาธารณรัฐฝรั่งเศส ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก GDP 2.465 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ กระทรวงพาณิชย์ได้โดยเชิญภาคเอกชนไทยรายใหญ่ที่ลงทุนในฝรั่งเศสและเอกชนอื่นๆ มานำเสนอข้อมูลที่สำคัญให้กับท่านนายกรัฐมนตรี อาทิ บริษัท Thai Union Frozen (TUF) บริษัท Double A บริษัท PTT Global Chemical บริษัท SeaValue บริษัทป่าใหญ่ครีเอชั่น สารคดีของบริษัทเพิ่งได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดสารคดีในงาน Asian Side of the Doc 2018 เพื่อเป็นตัวแทนมาประกวดผลงานในฝรั่งเศส (เรื่อง Duck Academy ) ในการเดินทางไปฝรั่งเศสในครั้งนี้ มาร่วมกิจกรรมของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ในการเข้าร่วมงาน The Sunny of the Doc 2018 ณ เมือง La Rochlle ตลาดการซื้อขายภาพยนตร์สารคดี ทางกระทรวงพาณิชย์ได้จัดพิธีลงนามความร่วมมือด้านการค้าระหว่างภาคเอกชนไทย โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ และภาคเอกชนฝรั่งเศสมาร่วมเป็นสักขีพยานการลงนาม MOU รวมทั้งสิ้น 4 ฉบับ ประกอบไปด้วย กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กับหอการค้านานาชาติ (ICC) และหอการค้านานาชาติแห่งประเทศไทย (ICC Thailand) 1 ฉบับ ว่าด้วยเรื่องความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการค้าระหว่างประเทศและการพัฒนาผู้ประกอบการไทย (Capacity Building) ระหว่างสถาบัน New Economy Academy (NEA) และ ICC Academy และอีก 3 ฉบับเป็นของ บริษัท PTTGC  บริษัท Loxley และกลุ่มมิตรผล เป็นการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีชั้นสูงของฝรั่งเศสมาพัฒนาขีดความสามารถของบริษัท กระทรวงพาณิชย์ได้พบกับหน่วยงานด้าน Creative Economy เช่น บริษัท Carlin เป็นบริษัทที่ปรึกษาของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โครงการพัฒนาสินค้าสำหรับผู้สูงอายุในฝรั่งเศส (60+) และสถาบันสอนการออกแบบ ENSCI อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงวัฒนธรรมและอุตสาหกรรม และได้พบกับหอการค้านานาชาติ (ICC: International Chamber of Commerce) เพื่อหารือด้านนโยบายหลักของไทยในการส่งเสริม SMEs  และได้ลงนาม MOU กับกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งถือจุดเริ่มต้นในการร่วมมือกันเพื่อพัฒนา SMEs ระหว่าง NEA ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดำเนินการด้านพัฒนาผู้ประกอบการในลักษณะเดียวกันกับ ICC โดยมีการดำเนินการสอนทั้งออนไลน์และออฟไลน์ รวมทั้งมีการทำความร่วมมือกับ Alibaba ในการสอนผู้ประกอบการให้ทำการค้าแบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ พร้อมกันนี้ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า  ได้มอบตราสัญลักษณ์ Thai Select ให้แก่ ร้านอาหารไทย จำนวน 12 ร้าน และกล่าวว่า Thai Select เป็นเสมือน Brand Ambassador ของอาหารไทย เพื่อให้คนต่างชาติได้รู้จักตรา Thai Select และเมื่อกลับไปต่างประเทศและต้องการรับประทานอาหารไทยแท้ๆ ต้องมองหาตราสัญลักษณ์ Thai Select เพื่อจะได้แยกความแตกต่างจากร้านต่างชาติที่นำชื่อไทยไปใช้ และทำอาหารรสชาติไม่ถูกต้อง และในอนาคต จะร่วมกับ ททท. การบินไทย จัดทำเป็น National campaign ประชาสัมพันธ์ บนเครื่องบินและสนามบิน เพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกคนได้เห็นและเกิดความจดจำในตราสัญลักษณ์ได้ อย่างไรก็ตาม รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ต้องการสนับสนุนให้ภาคเอกชนไทยเพิ่มความร่วมมือกันมากขึ้น ในภาคอุตสาหกรรมใหม่ๆ โดยเน้นภาคอุตสาหกรรมที่ประเทศไทย ประเทศอังกฤษ และประเทศฝรั่งเศสมีความสนใจร่วมกัน เช่น ด้าน Agri & Food , Energy , Hospitality & Wellness , Logistics, IT , Smart City และ Creative Economy และเห็นว่าโอกาสของ BREXIT และการที่สหภาพยุโรปยอมรับประเทศไทยในเวทีโลก จะทำให้โอกาสการค้า การลงทุนระหว่างกันมีเพิ่มมากขึ้น โดยจะได้ร่วมมือกับเอกชนไทยที่มีประสบการณ์และประสบความสำเร็จในการมาดำเนินธุรกิจไทยภูมิภาคยุโรปเป็นพี่เลี้ยง ในการส่งเสริมสนับสนุนให้เอกชนไทย SMEs เพื่อเพิ่มโอกาสในการส่งออกและลงทุน พร้อมทั้งการนำนวัตกรรมและองค์ความรู้ที่ทันสมัยจากภูมิภาคยุโรปไปประยุกต์ใช้พัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถของตนเองอย่างเป็นระบบ อีกทั้งเร่งทำกิจกรรมการส่งเสริมตลาดอาหารไทย เพื่อผลักดันยุทธศาสตร์ Thailand Kitchen of the World ให้เป็นที่รู้จักและยอมรับของผู้บริโภคในอังกฤษ ฝรั่งเศสและในภูมิภาคยุโรปเพิ่มมากขึ้นต่อไป อนึ่ง ในการเดินทางไปในครั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้เชิญเอกชนรายใหญ่ร่วมเดินทางไปด้วย รวมทั้งสิ้น 38 ราย 17 บริษัท (สหราชอาณาจักร 26 ราย สาธารณรัฐฝรั่งเศส 22 ราย อาทิ บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC), บมจ. ไทยเบฟเวอเรจ, บมจ.ล็อกซเล่ย์ (LOXLEY), กลุ่มมิตรผล, บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) บมจ.ดับเบิ้ล เอ เป็นต้น