จักร์กฤษ เพิ่มพูล ได้โพสต์ข้อความ วิบากกรรม คนสอนสื่อ - ไม่เพียงคนทำสื่อเท่านั้น แต่คนสอนสื่อก็อยู่ในภาวะหวั่นไหวไม่ต่างกันด้วย จดหมายบอกเลิกการจ้างอาจารย์ ซึ่งมีไปถึงอาจารย์หลายสิบคนของสถาบันแห่งนี้ อาจตอกย้ำความเชื่อของสังคมว่า วัน-เวลา ของคนสื่อใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว พร้อมๆกับความตายของนิเทศศาสตร์
ถึงกระนั้น ปรากฎการณ์ ‘ถ้ำหลวง’ กลับทำให้ผมเชื่อว่า นิเทศศาสตร์จะไม่มีวันตาย ตราบใดที่มนุษย์ยังต้องมีกา
รสื่อสารกัน เป็นการสื่อสารบน
หลักการ มีความรับผิดชอบ ละเอียดอ่อนที่จะเข้าใจการรายงานข่าวในสถานการณ์อ่อนไหว ข่าวถ้ำหลวงได้แยกแบ่งให้เห็นชัดระหว่าง ‘สื่ออาชีพ’ หรือสื่อกระแสหลัก กับสื่อออนไลน์ สื่อทางเลือก ที่เป็นเพียงผู้ใช้เครื่องมือสื่อสารเท่านั้น
ปัญหาของสถาบันแห่งนี้ จึงมิได้สะท้อนความเชื่อของ
สังคมที่ว่า นิเทศศาสตร์ตายแล้ว แต่เป็นปัญหาเฉพาะองค์กร ที่สั่งสมมาเป็นเวลานาน ผ่านการรับรู้ของสาธารณชนมา
เป็นลำดับ โดยเฉพาะการพิจารณาของคณะกร
รมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ที่ว่า เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ม
ีปัญหาคุณภาพของหลักสูตร
ผมได้ตระหนักในห้วงเวลาหนึ่
ง ที่มีบทบาทบริหารการศึกษาว่
า สื่อและสถาบันการศึกษาที่มี
การเรียนการสอนด้านสื่อมวลช
น จะต้องมีความซื่อตรง ไว้วางใจได้ไม่ต่างกัน ต้องมีความเป็นธรรม ไม่เอารัดเอาเปรียบคนอื่น ไม่ย้อนแย้งกับบทบาทความเป็
นผู้พิทักษ์ความถูกต้อง ดีงามของสังคมนี้
สำหรับ จักร์กฤษ เพิ่มพูล เป็นอดีตบรรณาธิการในเครือเนชั่น อดีตประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และเป็นอาจารย์สอนด้านกฎหมายและนิเทศน์ศาสตร์ในมหาวิทยาลัยหลายแห่ง