“โก้”ฆ่า “ธิติมา”เผ่นเข้ากัมพูชา ตำรวจเร่งประสานขอตัว

by ThaiQuote, 2 สิงหาคม 2561

จากกรณีพบศพ น.ส.ธิติมา หรือเชอรี่ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ อายุ 39 ปี ไฮโซสาวนักธุรกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัทมหาเกียรติ พร็อพ เพอร์ตี้ จำกัด ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และขนส่งรายใหญ่ รวมถึงเป็นเจ้าของกิจการปั๊มน้ำมันอีก 3 แห่ง ภายในห้องพักเลขที่ 2702 ชั้น 7 โรงแรมกรีนพ้อยท์ เรสซิเด้นท์ ซอยประดิษฐ์มนูธรรม 19 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. สภาพศพนั่งกับพื้นหน้าฟุบกับขอบเตียง สวมชุดนอนสีเขียว มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งเข้าที่บริเวณขมับขวาจนกะโหลกยุบ ใกล้กันพบไม้เบสบอลเปื้อนเลือดตกอยู่บนเตียง 1 อัน นอกจากนี้ยังพบว่ารถเบนซ์ รุ่นอี 220 สีบรอนซ์ ของผู้ตายถูกคนร้ายขับหลบหนีไป ต่อมาพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนกระทั่งศาลอาญารัชดาฯได้อนุมัติหมายจับนายอัศยา หรือโก้ ชัยภา อายุ 33 ปี ในข้อหา "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และลักทรัพย์ในเวลากลางคืน" ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี ตลอดทั้งวันวานนี้ (1 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลโชคชัย ต้องเร่งแกะรอยกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ เพื่อเร่งคลี่คลายคดีฆ่าโหด ไม้เบสบอลเหล็กทุบศีรษะนางสาวธิติมา หรือเชอรี่  โดยเจ้าหน้าที่ได้เริ่มแกะรอยตั้งแต่ที่โรงแรมที่เกิดเหตุ ที่นายอัศยา เข้าไปในห้องพักพร้อมกับผู้ตาย ช่วงกลางดึกของวันที่ 26 กรกฎาคม กระทั่งต่อเนื่องเข้าสู่ช่วงวันที่ 27 กรกฎาคม นายอัศยา ออกมาจากห้องพักเพียงคนเดียว พร้อมขับรถเบนซ์รุ่นอี 220 เลขทะเบียน 6 กฒ 1937 กรุงเทพมหานคร ของผู้ตายออกไปด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่พบรถคันนี้ ถูกจอดทิ้งไว้บริเวณใกล้ด่านชายแดนไทย-กัมพูชา อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ช่วงเย็นของวันที่ 27 กรกฎาคม ที่มีการถอดป้ายทะเบียนรถออก หวังตบตาเจ้าหน้าที่   ล่าสุดได้รับหลักฐานสำคัญจากชุดสืบสวน ขณะที่นายอัศยา พร้อมชายอีกคน ที่คาดว่าเป็นน้องชาย กำลังเดินอยู่ในโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ที่ฝั่งกัมพูชา เมื่อเวลา 19.12 น.ของวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งนายอัศยา อยู่ในชุดเดียวกับหลังเกิดเหตุ ที่กล้องวงจรปิดโรงแรมฝั่งไทยจับไว้ได้ โดยสวมเสื้อสีขาว กางเกงยีนส์สีเข้ม และรองเท้าสีขาว ในมือถือกระเป๋าถือสีดำแนบข้างลำตัวตลอดเวลา เบื้องต้นพันตำรวจเอก-สุพล ค้ำชู ผู้กำกับการ สถานีตำรวจนครบาลโชคชัย ยืนยันว่า ประสานทางการกัมพูชา ให้ทำการตรวจสอบแล้ว ก่อนจะขอตัวนายอัศยา กลับมาดำเนินคดีในไทยต่อไป ส่วนสาเหตุฆาตกรรมนั้น ตำรวจให้น้ำหนักเรื่องฆ่าชิงทรัพย์ เนื่องคนร้ายมีพฤติกรรมชอบเล่นการพนันที่ฝั่งกัมพูชา และมีหนี้สินจำนวนมาก ประกอบกับมีการนำทรัพย์สินจำนวนหนึ่งของผู้ตายติดตัวไปด้วย ประสานทางการกัมพูชา ให้ทำการตรวจสอบแล้ว ก่อนจะขอตัวนายอัศยา กลับมาดำเนินคดีในไทยต่อไป ส่วนสาเหตุฆาตกรรมนั้น ตำรวจให้น้ำหนักเรื่องฆ่าชิงทรัพย์ เนื่องคนร้ายมีพฤติกรรมชอบเล่นการพนันที่ฝั่งกัมพูชา และมีหนี้สินจำนวนมาก ประกอบกับมีการนำทรัพย์สินจำนวนหนึ่งของผู้ตายติดตัวไปด้วย   https://www.matichon.co.th/local/crime/news_1068239