นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกพรรคและคณะ เดินทางมายื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเเผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ ขอให้พิจารณากรณี นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.และทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย และเพจเฟซบุ๊ก "ชินวัตร แฟนคลับ" ที่ออกมาเปิดประเด็นว่าโครงการรับจำนำข้าวไม่ขาดทุน ว่าเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาลหรือไม่   โดย นพ.วรงค์ กล่าวว่า เรื่องนี้ศาลฎีกาฯ ได้มีคำพิพากษาไว้ชัดเจนถึงตัวเลขขาดทุนในโครงการรับจำนำข้าวว่า มีจำนวน 536,000ล้านบาท แต่การที่นายเรืองไกรนำมาเปิดประเด็นนี้ทำให้ประชาชนเกิดความสับสนและเกิดข้อกังขาตามมา และทราบว่าในเพจเฟซบุ๊ก "ชินวัตร แฟนคลับ" ได้นำคำพูดของนายเรืองไกรไปขยายผล ถ้าเรายังปล่อยเรื่องนี้ออกไปโดยไม่ดำเนินการใด จะเกิดความเสียหายต่อกระบวนการยุติธรรม เพราะคำพิพากษาของศาลถือเป็นที่สิ้นสุดแล้ว เราจึงนำเรื่องของนายเรืองไกร และเพจ "ชินวัตร แฟนคลับ"มาเพื่อให้ศาลได้ทราบและพิจารณาดำเนินการต่อไป   "อยากให้นายเรืองไกรทราบด้วยว่าในช่วงที่พวกเรามาเป็นพยาน ศาลฎีกาฯ ได้ออกข้อกำหนดคดีจำนำข้าวไม่ให้คู่ความหรือคู่กรณีออกมาให้สัมภาษณ์บิดเบือนข้อเท็จจริง จึงเชื่อว่าเมื่อมายื่นศาลคงพิจารณาดำเนินการต่อไป" นพ.วรงค์ กล่าว   เมื่อถามถึงกรณีที่นายเรืองไกรได้ยื่นร้องต่อสำนักนายกฯ เรื่องข้าวที่หายไป 1 ล้านตัน และไม่มีเจตนาก้าวล่วงคำพิพากษา  นพ.วรงค์ กล่าวว่า เรื่องข้าวหายไม่หายในช่วงหลังนั้นไม่เกี่ยวกับคดีโครงการรับจำนำข้าว ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี แล้ว แต่ประเด็นที่นายเรืองไกร เปิดมาทำให้สังคมมีข้อกังขา เพราะกรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เมื่อศาลตัดสินแล้วก็เปิดโอกาสให้ยื่นอุทธรณ์ แต่ตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถ้าตัวเองคิดว่าไม่ผิดทำไมจึงหลบหนี ตนขอท้าไปที่ นายเรืองไกร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่าเรามี พ.ร.บ.รื้อฟื้นคดีอาญาฯ ถ้าหากนายเรืองไกร เข้าใจว่ามีข้อมูลใหม่ว่าไม่มีการทุน ก็ให้มารื้อฟื้นคดีสู้กันใหม่   เมื่อถามว่า การกระทำของนายเรืองไกร เป็นความผิดกฎหมายฐานใด นพ.วรงค์ กล่าวว่า เราต้องรู้ว่าอะไรที่ศาลตัดสินแล้ว หากไม่จบจะเป็นผลเสียหายต่อกระบวนการยุติธรรม ตนมาทำตรงนี้เพื่อปกป้องกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นหนึ่งในเสาหลักของระบอบประชาธิปไตย ส่วนศาลจะพิจารณาอย่างไรต่อไปนั้นเป็นดุลพินิจของศาล   ภายหลังยื่นคำร้องต่อเลขานุการศาลฎีกาฯ เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็จะมีการส่งคำร้องให้องค์คณะพิจารณาว่าจะดำเนินการออกหมายเรียกมาไต่สวนหรือไม่