นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. กล่าวถึงข้อกังวลถึงกำหนดวันสรรหาส.ว.ระดับอำเภอที่กกต.กำหนดแผนปฏิบัติไว้เป็นวันวันที่ 30 ธ.ค. ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดยาวสิ้นปี ว่า วันที่ 30 ธ.ค.เป็นเพียงตารางที่กกต.กำหนดไว้เบื้องต้น ซึ่งเผื่อเวลาเอาไว้ไม่ให้เกินวันที่ 30 ธ.ค. โดยคำนึงถึงความสะดวกในการปฏิบัติและปัจจัยอื่นๆ แน่นอนว่าการเลื่อนเวลาให้เร็วกว่านั้นถ้าทำได้ก็จะสมประโยชน์แก่ทุกฝ่าย กกต.เองก็คาดหวังว่าจะสามารถจัดให้เร็วขึ้นได้ ขณะนี้กระบวนการเตรียมการเริ่มต้นไปแล้ว หากสามารถทำได้เร็วกว่าที่คิด ก็จะทำให้การเลือกส.ว.ในระดับอำเภออาจจะไปไม่ถึงวันที่ 30 ธ.ค. ซึ่งกำหนดให้เป็นวันสุดท้าย   ส่วนการออกพ.ร.ฎ.การสรรหาส.ว.ทางกกต.คงไม่ต้องประสานไปยังคสช.เพื่อให้เร่งพิจารณา เพราะทุกอย่างต้องทำไปตามกำหนดเวลาและกระบวนการ ซึ่งกำหนดไว้ในระเบียบการได้มาซึ่งส.ว.ที่มีผลบังคับใช้แล้ว ช่วงเวลาทั้งหมดจะเป็นไปตามขั้นตอนที่ต้องดำเนินการ ส่วนปัจจัยว่า  เมื่อไร กกต.จะเสนอรัฐบาลตรา พ.ร.ฎ.การเลือก ส.ว.เราคำนึงถึงวันสุดท้ายที่ต้องส่งชื่อ ส.ว. ภายในไม่เกิน 15 วันก่อนมีการเลือกตั้งส.ส. ไม่ว่าการเลือกตั้งส.ส.จะมีขึ้นช่วงใด ก็ต้องทำให้มั่นใจว่า มีส.ว.ทันตามกำหนดเวลา   เมื่อถามว่าจำเป็นต้องรอความชัดเจนเรื่องวันเลือกตั้งส.ส.ก่อนใช่หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ไม่จำเป็นเพราะกระบวนการเริ่มไปแล้ว จึงไม่ต้องรออะไร แค่ทำไปตามขั้นตอน เช่น จัดให้มีการรับสมัคร ให้มีการเลือกส.ว.ในแต่ละระดับ   ประธานกกต. กล่าวถึงการประชุมชี้แจงพรรคการเมืองในวันพรุ่งนี้ (28ก.ย.)ว่า ในการหารือกับพรรคการเมืองนั้น กกต. พร้อมที่จะตอบทุกคำถามกับพรรคการเมือง และเตรียมเนื้อหาการบรรยายให้ชัดเจน แต่บางคำถามอาจต้องไปหาคำตอบ ซึ่งกฎหมายของกกต.มาตรา 23 เขียนไว้ชัดว่า กกต.มีหน้าที่ตอบข้อซักถามของพรรคการเมืองตลอดเวลา และให้เวลากกต.ตอบข้อซักถามพรรคการเมืองภายใน 30 วัน ถ้าไม่ตอบภายในกำหนดจะถือว่าผิดมาตรฐานจริยธรรมของ กกต.   ส่วนที่บางพรรคการเมืองติดต่อหาสมาชิกทางสื่อออนไลน์. ประธานกกต.กล่าวว่า กฎหมายเขียนไว้ชัดเจนว่า สามารถใช้สื่อโซเชียลมีเดีย ติดต่อสื่อสารกับผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองและสมาชิกได้ แต่จะใช้ในการหาสมาชิกได้หรือไม่เป็นรายละเอียดที่จะพูดคุยกัน นี้ ส่วนกรณีที่บางพรรคเปิดเว็ปไซต์โดยบรรจุนโยบายพรรคอยู่ในเว็ปไซต์ด้วยนั้น ส่วนตัวคิดว่า สามารถทำได้ หากไม่มีลักษณะเป็นการหาเสียง