ผู้ประกันตนเฮ! รพ.เอกชน 78 แห่ง ให้บริการป้องกันโรค 8 รายการ เริ่ม 1 ต.ค.นี้

by ThaiQuote, 1 ตุลาคม 2561

นพ.ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวะพลา ประธานอนุกรรมการพัฒนาการบูรณาการด้านส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคในระบบประกันสุขภาพ สำหรับประชาชนทุกภาคส่วน เพื่อบูรณาการงานบริการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค ปี 2562 กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการพิจารณาการจัดทำงบประมาณในลักษณะบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 คณะที่ 5 องค์ประกอบ 5.2 การพัฒนาระบบประกันสุขภาพ โดยมี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอโดยคณะอนุกรรมการพัฒนาการบูรณาการด้านส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคในระบบประกันสุขภาพฯ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการอย่างครอบคลุมและทั่วถึง มีคุณภาพและประสิทธิภาพ โดยปรับรูปแบบการชดเชยค่าบริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค เป็นการจ่ายตามราคากลางที่กำหนด (Fee Schedule) จำนวน 8 รายการ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการบริการประชาชนเพิ่มขึ้น พร้อมประสานความร่วมมือกับโรงพยาบาลเอกชนในระบบประกันสังคมจำนวน 78 แห่ง เข้าร่วมให้บริการ ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดผลการดำเนินงานตามมติดังกล่าว โดยจะเริ่มในปีงบประมาณ 2562 นี้ ในวันที่ 31 สิงหาคม 2561 ที่ผ่านมา สปสช.ได้ร่วมกับสำนักงานประกันสังคม (สปส.) จัดการประชุมเพื่อรับฟังการชี้แจงการจ่ายชดเชยค่าบริการสร้างเสริมสุขภาพแบบตามราคากลางที่กำหนด ปี 2562 ซึ่งได้เชิญผู้แทนจากโรงพยาบาลเอกชนในระบบประกันสังคมที่เป็นหน่วยบริการนอกระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติกว่า 40 แห่งเข้าร่วม นพ.ณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า ผลจากการประชุมครั้งนี้ มีโรงพยาบาลเอกชนในระบบประกันสังคมหลายแห่งที่มีศักยภาพบริการให้ความสนใจเข้าร่วมตามนโยบายนี้ เพราะนอกจากเป็นการเพิ่มบริการสุขภาพด้านการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้กับผู้ประกันตนที่ขึ้นทะเบียนกับโรงพยาบาล ตามบริการเฉพาะ 8 รายการที่กำหนด โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยเบิกจ่ายค่าบริการจากกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งจากแต่เดิมจำกัดเฉพาะบริการรักษาที่เบิกจ่ายจากกองทุนประกันสังคมเท่านั้น ขณะเดียวกันยังสามารถขยายการให้บริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคทั้ง 8 รายการนี้ไปยังประชาชนทั่วไปได้ อาทิ ผู้มีสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ผู้มีสิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ เป็นต้น ทั้งนี้ การบริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค 8 รายการ ที่ได้ปรับรูปแบบการจ่ายชดเชยเป็นการจ่ายตามราคากลางที่กำหนด มีดังนี้ 1.บริการตรวจยืนยันโลหิตจางธาลัสซีเมียในหญิงตั้งครรภ์และสามี 2.บริการตรวจคัดกรองดาวน์ซินโดรมในหญิงตั้งครรภ์อายุ 35 ปีขึ้นไป 3.บริการตรวจคัดกรองภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ในเด็กแรกเกิด 4.บริการป้องกันการยุติการตั้งครรภ์ที่ไม่ปลอดภัย 5.บริการคุมกำเนิดกึ่งถาวร การใส่ห่วงอนามัยหรือฝังยาคุมกำเนิด ในกลุ่มหญิงอายุ 20 ปีขึ้นไป 6.บริการคุมกำเนิดกึ่งถาวร การใส่ห่วงหรือฝังยาคุมกำเนิด ในหญิงอายุ 20 ปี หรือต่ำกว่า กรณีหลังยุติการตั้งครรภ์ 7.บริการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก และ 8.บริการฝากครรภ์ “จากการดำเนินการตามนโยบายนี้ จะมีการประเมินผลเพื่อติดตามการเข้าถึงบริการและผลจากการบริหารจัดการ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาและเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพมาตรฐานในด้านการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคในปีต่อไปให้กับประชาชนคนไทยทุกสิทธิ” ประธานอนุกรรมการพัฒนาการบูรณาการด้านส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคในระบบประกันสุขภาพ กล่าว