ดร.ธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการจัดตั้งกองทุนเพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยจะเห็นเป็นรูปธรรมภายในปีนี้ โดยในเบื้องต้นจะมีวงเงินประมาณ 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นเงินสนับสนุนจากรัฐบาล เพื่อนำมาปล่อยกู้ให้กับผู้มีรายได้น้อยที่ต้องการซื้อบ้านกับการเคหะฯ แต่ไม่สามารถขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้ เนื่องจากมีอาชีพไม่แน่นอนหรือมีรายได้ไม่เพียงพอตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ไม่สูงนัก

ซึ่งการเคหะแห่งชาติเดินหน้าพัฒนาที่อยู่อาศัยตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ผู้มีรายได้น้อยและผู้ด้อยโอกาสได้มีที่อยู่อาศัยถ้วนทั่ว เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมในสังคม พร้อมสร้างโอกาสในการเข้าถึงสวัสดิการและบริการของรัฐ ภายใต้แผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579) โดยการเคหะแห่งชาติมีแผนการขับเคลื่อนการพัฒนาที่อยู่อาศัย จำนวน 2.27 ล้านหน่วย โดยในปี 2562 มีเป้าหมายดำเนินการพัฒนาที่อยู่อาศัยจำนวน 38,562 หน่วย ได้แก่

แผนยกระดับคุณภาพชีวิต (เช่า) จะดำเนินการจัดสร้างอาคารเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อยที่ยังไม่สามารถรับภาระที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ รวมทั้งเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยที่ได้มาตรฐาน รวม 8,016 หน่วย ประกอบด้วย โครงการอาคารเช่าสำหรับประชาชนทั่วไปจำนวน 804 หน่วย โครงการอาคารเช่าในเขตเศรษฐกิจพิเศษจำนวน 1,000 หน่วย และโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะ 2 - 4 (รองรับผู้อยู่อาศัยเดิม) จำนวน 6,212 หน่วย

แผนเสริมสร้างความมั่นคงด้านการอยู่อาศัย (เช่าซื้อ) จะดำเนินการจัดสร้างโครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชนสำหรับผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง นักศึกษาจบใหม่ และครอบครัวขยาย รวม 4,967 หน่วย ประกอบด้วย โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุดที่ 2 ระยะที่ 1 จำนวน 3,365 หน่วย โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุดที่ 2 ระยะที่ 2 จำนวน 1,242 หน่วย และโครงการบ้านผู้สูงอายุจำนวน 360 หน่วย

แผนพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับข้าราชการ จะดำเนินการจัดสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับข้าราชการชั้นผู้น้อย เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน รวม 8,655 หน่วย ประกอบด้วย โครงการที่อยู่อาศัยสำหรับข้าราชการประเภทเช่าซื้อ จำนวน 5,000 หน่วย และโครงการบ้านพักข้าราชการ (บ้านหลวง) จำนวน 3,655 หน่วย และแผนความร่วมมือกับภาคเอกชน (บ้านประชารัฐ) สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและรายได้ปานกลาง

เพื่อส่งเสริมความมั่นคงและยกระดับคุณภาพชีวิตด้านการอยู่อาศัยของประชาชนกลุ่มเป้าหมาย รวม 16,924 หน่วย โดยจะดำเนินการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (Joint Investment) ตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556 มูลค่าโครงการตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป ได้แก่ โครงการเคหะชุมชนเชียงใหม่ (หนองหอย) โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดงระยะที่ 3 และ 4 รองรับผู้อยู่อาศัยใหม่ และโครงการร่มเกล้าคอนเน็กชัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ครม.อนุมัติ การเคหะฯจัดทำบ้านเพื่อผู้สูงอายุรายได้ปานกลาง