พ.ร.บ.คู่ชีวิต กลุ่มหลากหลายทางเพศได้สิทธิเท่าคู่สมรส

by ThaiQuote, 6 พฤศจิกายน 2561

นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เปิดเผยความคืบหน้าร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิตว่า ขณะนี้กรมฯได้เปิดเว็บไซต์เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในเรื่องดังกล่าวและในวันที่ 12-16 พ.ย.จะเปิดเวทีวิพากษ์เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศโดยจะเปิดเวทีที่โรงแรมมิราเคิล กทม. ส่วนในต่างจังหวัดก็จะมีการเปิดเวทีรับฟังความเห็นที่ จ.เชียงใหม่และ จ.พระนครศรีอยุธยา และในพื้นที่ภาคใต้ที่ อ .หาดใหญ่ จ.สงขลา ก่อนจะสรุปเนื้อหาเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาภายในเดือนพ.ย.นี้ เนื้อหาร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิตฉบับล่าสุดจะมีทั้งสิ้น 70 มาตราซึ่งกระทรวงยุติธรรมได้ร่วมกับภาคประชาสังคมเสนอแนวคิดพร้อมแก้ไขปรับปรุงโดยสาระสำคัญของร่างฯยังเน้นการแก้ปัญหาให้กลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศที่ต้องการสร้างครอบครัวและใช้สิทธิในการอยู่ร่วมกัน รวมทั้งการระบุถึงทรัพย์สินที่ทั้ง 2 ฝ่ายสร้างมาด้วยหลังจากใช้ชีวิตคู่ร่วมกันและการจัดการมรดกหากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเสียชีวิต การแก้ไขร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิต ส่วนใหญ่เป็นการแก้ไขในประเด็นที่กลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศยังไม่ได้รับได้สิทธิที่ควรจะเป็น รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิฯยังกล่าวอีกว่า สำหรับการจดทะเบียนคู่ชีวิตยังคงใช้คำว่า "คู่ชีวิต" เหมือนเดิม เนื่องจากสถานภาพยังไม่ใช่คู่สมรส แต่จากการรับฟังความคิดเห็นของนักวิชาการและผู้เกี่ยวข้องส่วนใหญ่ยืนยันร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิตฉบับล่าสุดให้สิทธิกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งใกล้เคียงสถานภาพของผู้จดทะเบียนสมรสแล้ว "การแก้ไขร่างพ.ร.บฯฉบับนี้ได้นำสาระสำคัญต่างๆ เทียบเคียงกับของต่างประเทศโดยบางประเทศได้ให้สิทธิกลุ่มคนหลากหลายทางเพศจดทะเบียนเป็นคู่สมรส ขณะที่บางประเทศจดทะเบียนเป็นคู่ชีวิตแต่ก็ยังมีการแยกย่อยลงไปอีกว่าเป็นคู่ชีวิตประเภทไหนหรือบางประเทศก็ให้สิทธิชาย-หญิงที่ไม่ต้องการจดทะเบียนสมรสมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้ ซึ่งในประเด็นนี้ คณะกรรมการยกร่างฯกม.ก็ได้มีการหารือกัน แต่ในที่สุดได้ลงมติว่ายังไม่สามารถเข้าถึงความเดือดร้อนหรือสิทธิความต้องการอย่างแท้จริงของคนกลุ่มนี้ได้จึงไม่นำประเด็นนี้เข้ามาบรรจุในร่างกฎหมาย" "ส่วนนายทะเบียนผู้ทำหน้าที่จดทะเบียนคู่ชีวิตนั้นในร่างกฎหมายระบุชัดเจนว่าให้กรมการปกครองเป็นผู้ดำเนินการเพราะถือว่าเป็นการจดทะเบียนครอบครัวซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 4 กระทรวง คือ มหาดไทย ยุติธรรมต่างประเทศและพัฒนาสังคม แต่ยังไม่ทราบว่าหากกฎหมายถูกเสนอเข้าไปยังครม.แล้วจะมีกระทรวงใดถูกตัดออกไปบ้างดังนั้นในร่างกฎหมายจึงกำหนดให้เป็นหน้าที่รับผิดชอบของกรมการปกครองไว้ก่อน ซึ่งหากกลุ่มคนหลากหลายทางเพศต้องการจดทะเบียนฯก็สามารถเดินทางมาแจ้งความประสงค์ที่ได้ทุกอำเภอเช่นเดียวกับการจดทะเบียนสมรส" นายเกิดโชค กล่าว