“เพชรมงคล”ฝันสูงสุดอยากได้ชัยที่ลุมพินีหรือราชดำเนิน

by ThaiQuote, 15 พฤศจิกายน 2561

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นได้ให้ความสนใจกับการตายของ“เพชรมงคล ป.พีณภัทร” หรือ ด.ช.อนุชา ทาสะโก นักชกมวยเด็กวัย 13 ปี เสียชีวิตจากอาการเลือดคั่งในสมองหลังถูกน็อกสลบคาเวที โดยแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจแห่งชาติยืนยันกับซีเอ็นเอ็นว่า ด.ช.อนุชา ทาสะโกอายุเสียชีวิตเป็นผลมาจากการตกเลือดที่ก้านของสมอง การตายของเด็กชายได้นำไปสู่การเรียกร้องให้มีการปฏิรูปวงการมวยไทย ไม่ให้ใช้เด็กอายุน้อยในการแข่งขันในศึกอาชีพ ซึ่งก่อนหน้านี้คือมีเด็กอายุเพียง 8 ขวบขึ้นชกในศึกอาชีพ ซีเอ็นเอ็นได้กล่าวถึงการให้สัมภาษณ์ของนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาของไทย ว่าขณะนี้รัฐบาลกำลังเร่งออกร่างกฎหมายกีฬามวยฉบับใหม่ ในสาระใหม่นี้ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีขึ้นชกโดยเด็ดขาด ส่วนอายุ 12 - 15 ปีให้ชกได้แต่ต้องสวมใส่อุปกรณ์ลดความรุนแรง โดยจะรีบส่งให้ครม.พิจารณาโดยเร็วที่สุด อีกด้านหนึ่งลุงดำรง ที่ดูแลเขาตั้งแต่ 3 ขวบเล่าให้ซีเอ็นเอ็นฟังว่า เขาตายดั่งนักรบ จากประวัติ อนุชาเริ่มชกมวยตั้งแต่ 7 ขวบ เป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ ครอบครัวของเขามาจากจังหวัดกาฬสินธุ์ เขาชนะนัดแรกด้วยเงินรางวัล 300 บาท สำหรับการแข่งขันเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเงินรางวัลที่ตั้งไว้คือ 2,000 บาท นาย ดำรงค์ กล่าวว่าเหตุที่หลานชายฝึกฝนมวยไทยเพราะอยากหาเงินไปซื้อสิ่งของต่างๆ นอกจากนี้ยังฝันว่าสักวันหนึ่งจะชนะการแข่งขันในเวทีลุมพินีหรือราชดำเนิน อันเป็น 2 สนามมวยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไทย อีกทั้งยังอยากเข้าเรียนในโรงเรียนนายร้อยของทหารด้วย เมื่อถามถึงการตายของ อนุชา ลุงเขาบอกว่าไม่ได้โทษใคร "เขาตายเหมือนนักรบเขาเป็นนักรบ" รายงานของซีเอ็นเอ็นยังกล่าวต่อไปว่าการเสียชีวิตของอนุชาจะเป็นประกายในการจุดประเด็นถึงการต่อสู่เรื่องสิทธิเด็กและความปลอดภัยของเด็กในการเล่นกีฬามวย ซึ่งที่ผ่านมาทางโครงการวิจัยเกี่ยวกับนักมวยเด็ก โดยมหาวิทยาลัยมหิดลต่อสู้มาตลอดแต่ไม่ประสบความสำเร็จ นพ.วิทยา สังขรัตน์ แพทย์และหัวหน้าโครงการวิจัยเกี่ยวกับนักมวยเด็ก โดยมหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ไม่ได้ต่อต้านกีฬามวยไทยทั้งหมด เพียงแต่ว่าไม่อยากให้เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีชกมวย เพราะจะสะเทือนต่อศีรษะและระบบสมอง เพราะจากการสแกนสมองของเด็กที่ชกและไม่ชกมวย ซึ่งพบความแตกต่างด้านพัฒนาการของเด็กทั้ง 2 กลุ่มกันอย่างชัดเจน   ขอบคุณข่าวจากซีเอ็นเอ็น