พล.ต.อ.ศรีวราห์  รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณี ทนายความของ นายเปรมชัย กรรณสูตร ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลี่ยนไทยฯ จำเลยคดีร่วมกันกับพวกล่าเสือดำ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ พยายามต่อสู้คดีในชั้นศาลด้วยการพยายามนำสืบว่าขณะเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม นายเปรมชัย ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ ว่า   คดีนี้มีการสอบสวนชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องการแบ่งหน้าที่กันทำว่าใครรับผิดชอบอะไรบ้าง แม้แต่ซากเสือดำ ซึ่งมีการแยกชิ้นส่วนหัว กะโหลก เนื้อ หนัง จากกัน ตำรวจก็พิสูจน์ทราบจนมีการรวมเป็นตัวเสือ จนเป็นหลักฐานมัดว่าเป็นการ “ล่า” ซึ่ง”การล่า” ไม่จำเป็นต้องลงมือยิงเอง แต่มีการแบ่งหน้าที่กันทำ เช่น แค่เป็นคนดูต้นทางก็ถือว่ามีความผิดแล้ว ส่วนจำเลยจะเบิกความอย่างไรนั้นก็เป็นสิทธิอยู่ที่ดุลยพินิจของศาล   ในส่วนของสำนวนคดี เจ้าหน้าที่ได้ทำอย่างชัดเจนว่า มีการแบ่งหน้าที่กันทำ จนอัยการพิจารณามีความเห็นสั่งฟ้อง ซึ่งมีความเชื่อมั่นในในกระบวนการยุติธรรม โดยขณะนี้หน้าที่ของตำรวจเหลือเพียงตามพยานทั้ง 32 ปากไปขึ้นเบิกความต่อศาล และพยานทั้งหมดขณะนี้ยังอยู่ครบถ้วน พร้อมขึ้นเบิกความ  ส่วนคดีจะมีข้อสรุปเมื่อใด ยังไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากไม่อาจก้าวล่วงอำนาจศาลได้   ส่วนที่ นายเปรมชัย ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “หนัก” รวมถึงที่ทนายความระบุว่านายเปรมชัยไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ ส่วนตัวไม่มีความเห็นต่อเรื่องดังกล่าว หากอีกฝ่ายจะให้การต่อศาล ก็เป็นสิทธิที่จะให้การอย่างไรก็ได้ แต่ยืนยันว่าตำรวจมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะเอาผิด ส่วนที่สังคมออนไลน์ยังคงมีการแชร์ภาพและข้อความเรียกร้องเกี่ยวกับคดีเสือดำ เช่น ไม่ได้รับความยุติธรรม หรือ ไม่ต้องการให้คดีเงียบหาย ส่วนตัวไม่ทราบเรื่องดังกล่าว เพราะมุ่งเป้าหมายไปที่การทำสำนวนคดี ขณะนี้ในส่วนของตำรวจดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว