ในการแสดงชุดประจำชาติ ของสาวงาม 118 คน นิโคลีน สวมใส่ชุดไทยตะเบงมาน รับหน้าที่แสดงการโบกธง มิสเวิลด์ 2018  จากนั้น รอบ 30 คนสุดท้าย ซึ่งเป็นช่วงคะแนนพิเศษ นิโคลีน สามารถผ่านเข้ารอบในรอบนี้  จากการกล่าวปาฐกถา นำเสนอโครงการ Beauty with a purpose ส่วนชาติอื่นๆ ได้แก่ มอริเชียส เวเนซุเอลา บังกลาเทศ ชิลี มาเลเซีย อินเดีย สิงคโปร์ ไทย เม็กซิโก ยูกันดา ฝรั่งเศส เนปาล สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ อินโดนีเซีย เวียดนาม ญี่ปุ่น จีน คุกไอส์แลนด์ เบลารุส เบลเยียม ไอร์แลนด์เหนือ รัสเซีย สก็อตแลนด์ ไนจีเรีย แอฟริกาใต้ ปานามา บาร์เบโดส จาไมกา และมาร์ตีนิก ตามลำดับ ถัดมาเป็นรอบ 12 คนสุดท้าย  แบ่งเป็นทวีปและภูมิภาค เริ่มจากทวีปยุโรป ได้แก่ เบลารุส ฝรั่งเศส สกอตแลนด์ จากแถบแคริบเบียน ได้แก่ จาเมกา มาร์ตินีก ทวีปอเมริกา ได้แก่ เม็กซิโก ปานามา ทวีปแอฟริกา ได้แก่ มอริเชียส ยูกันดา ทวีปเอเชียและโอเชียเนีย คัดเหลือ 3 จาก 10 คน ได้แก่ เนปาล นิวซีแลนด์ และไทย ขณะที่สาวจีนเจ้าภาพตกรอบไปพร้อมกับ ญี่ปุ่น เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และบังกลาเทศ ในรอบ 5 คนสุดท้าย เริ่มจากยุโรป มิสเบราลุส คว้าไป ตามด้วยตำแหน่ง มิสเวิลด์ แคริบเบียน ได้แก่ จาเมกา ส่วนทวีปอเมริกาตกเป็นของเม็กซิโก และทวีปแอฟริกา ได้แก่ ยูกันดา ปิดท้ายด้วยทวีปเอเชีย เป็น นิโคลีน สาวงามจากประเทศไทย ในการสัมภาษณ์ 5 คนสุดท้าย เบลารุส จาเมกา เม็กซิโก ยูกันดา และไทย นิโคลได้คำถาม ว่าการเป็นมิสเวิลด์เป็นเกียรติแต่ก็เป็นงานหนักด้วย จะหาความแข็งแกร่งจากที่ใด นิโคลตอบว่า คือ passion (ความหลงใหล) แรงบันดาลใจนี้ตนเองได้จากน้องชายที่เป็นออทิสติก และนำแรงบันดาลใจนั้นไปช่วยคนอื่น เมื่อเรารักในงานที่ทำ และทำในงานที่ทำ เราก็จะมีความแข็งแกร่งในการทำงานช่วยสังคม และเปลี่ยนแปลงโลกไปในทางที่ดีขึ้น จากนั้น เป็นการประกาศคะแนนโหวตทางออนไลน์ ภายหลังการสัมภาษณ์ ปรากฏว่า ไทยได้คะแนนโหวตสูงสุด ตามด้วยเม็กซิโก และยูกันดา กระทั่งถึงการตัดสิน จูเลีย มอร์ลีย์ ประกาศผู้ได้ตำแหน่งรองมิสเวิลด์ ได้แก่ นิโคลีน พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018 ตัวแทนจากประเทศไทย ขณะที่ผู้ที่สามารถครอบครองมงกุฎมิสเวิลด์ในปีนี้  ได้แก่ วาเนสซา ปองเซ เดอ เลออง จากเม็กซิโก