กรุงเทพมหานคร - นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยในงานเสวนา "การเลือกตั้งคุณภาพกับอนาคตประเทศไทยภายหลังการเลือกตั้ง" ว่า กกต.จะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบเกี่ยวกับการเลือกตั้งให้มากที่สุด และขอฝากไปถึงประชาชนว่า อำนาจในการสร้างอนาคตอยู่ในมือ อยากให้ออกมาใช้สิทธิ์ให้มากเป็นประวัติการณ์ เพราะจะส่งผลดีต่อการปกครอง อีกทั้งทุกอย่างที่ทำมาก็เพื่อให้ประชาชนเป็นเจ้าของประเทศอย่างแท้จริง

"กกต.ต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ผมจึงต้องติดกระจกรอบตัวเองเพื่อให้ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด กกต.ทั้ง 7 คนไม่ใช่ซามูไร แต่ถ้าเปรียบเทียบเพราะงานเยอะมากก็คงเป็น กกต. แบบ 7-11 เนื่องจากทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนนักการเมืองทั้งหลายก็ขอให้รู้จักแพ้รู้จักชนะ หากไม่ได้รับเลือกตั้ง ก็ขอให้เอาความดีและความอุตสาหะเข้าสู้ในครั้งต่อไป" นายอิทธิพร กล่าว

ประธานกกต. กล่าวอีกว่า ในส่วนบัตรเลือกตั้งนั้น ขอเรียกว่าเป็นบัตรประเภทไฮบริด หรือเป็นบัตรเลือกตั้งประวัติศาสตร์ เพราะรวมเอาต้นแบบ 2 บัตรเลือกตั้งมารวมกันในบัตรเดียว และที่ประชุมกกต.ลงมติกันแล้วว่าอยากให้บัตรเลือกตั้งมีทั้ง ชื่อ โลโก้ และหมายเลขกำกับของแต่ละพรรค และบัตรจะพิมพ์แตกต่างกันทั้ง 350 เขตเลือกตั้ง โดยโรงพิมพ์ยืนยันว่าสามารจัดพิมพ์บัตรได้ตามกรอบเวลา กกต.จึงมีมติให้พิมพ์บัตรซึ่งแต่ละเขตจะไม่ซ้ำกัน

"กกต.มีอำนาจแต่งตั้งเจ้าพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อไต่สวนคดีทุจริตเลือกตั้ง มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกันพนักงานสอบสวนเทียบเท่าเจ้าพนักงานปกครองชั้นผู้ใหญ่ และกำหนดมีการคุ้มครองพยาน เงินรางวัลตัวเลข 6 หลัก สำหรับผู้แจ้งเบาะแสที่มีประโยชน์ต่อการดำเนินคดีของกกต. ซึ่งเงินรางวัลมากกว่าสินจ้างที่รับเพื่อให้ไปลงคะแนน"

นอกจากนี้ ประเทศไทยผ่านการปฏิวัติรัฐประหารมาแล้ว 13 ครั้ง ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งจะมีเสียงครหาว่ามีการซื้อเสียง ผู้แทนฯที่ได้มาไม่เป็นปากเสียงให้ประชาชนอย่าแท้จริง มีการถอนทุนคืนในรูปแบบต่างๆ จนเป็นที่มาของการยึดอำนาจล้มรัฐบาล ล้มรัฐธรรมนูญฉบับเดิม ภาพประวัติศาสตร์เหล่านั้นเป็นวังวนทางการเมืองไทย 86 ปี จนคนอื่นเรียกกันว่า เป็นประชาธิปไตยแบบไทยๆ

อย่างไรก็ตาม ในส่วนการยึดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นเพราะความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในประเทศ กระทั่งนำไปสู่การตั้งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ทั้งในส่วนของพรรคการเมือง หน้าที่พลเมือง และบทบาทการจัดการเลือกตั้งของกกต. ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ กกต.ตั้งเป้าให้มีผู้ออกมาใช้สิทธิลงคะแนน 80% และมีบัตรเสียไม่เกิน 2%  นำเทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรนตรวจสอบการทุจริตการเลือกตั้ง