พปชร.ร่วมประชาธิปัตย์ เห็นพ้องงบหาเสียง 2 ล้าน

by ThaiQuote, 19 ธันวาคม 2561

ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นนทบุรี - นายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า พรรคพอใจกับค่าใช้จ่ายในการหาเสียงของผู้สมัครส.ส. ที่กกต.กำหนดให้วงเงินคนละไม่เกิน 2 ล้านบาท ถือว่าเหมาะสมแล้ว ส่วนเรื่องป้ายหาเสียงที่เป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์กันนั้น ตามกฎหมายใหม่มีการกำหนดระเบียบไว้ชัดเจนแล้ว ทั้ง คนที่ไม่ได้เป็นคณะกรรมการบริหารพรรค หรือสมาชิกพรรค จะเข้ามาครอบงำหรือชี้นำพรรคไม่ได้ ดังนั้น การจะขึ้นรูปคู่กับผู้สมัครนั้น ต้องเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องในขอบข่ายของกฎหมาย พร้อมยืนยันพรรคพลังประชารัฐ มีผู้นำที่จะขึ้นรูปคู่กับผู้สมัครในขอบเขตที่สามารถทำได้แล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่า จะขึ้นป้ายที่มีรูปพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อหาเสียงด้วยหรือไม่ นายวิเชียร กล่าวว่า ในหลักการคนที่จะขึ้นรูปต้องเป็นสมาชิกพรรค และอยู่ในบัญชีรายชื่อ แต่พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้อยู่ในบัญชีรายชื่อ  แต่ท่านอาจจะอยู่ในฐานะที่พรรคการเมืองจะเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมเป็นนายกฯ แต่ถ้าอยู่ในบัญชีรายชื่อก็สามารถขึ้นรูปได้ อยู่ที่เงื่อนไข เพราะคนที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ ไม่ได้แปลว่าต้องเป็นสมาชิกหรือคนที่อยู่ในบัญชีรายชื่อ ซึ่งกรณีนั้นอยู่นอกเงื่อนไขของการกำหนด ไม่เช่นนั้นหากจะเสนอใครก็เอารูปไปขึ้น ซึ่งไม่น่าจะถูกต้อง ประชาธิปัตย์ พอใจงบหาเสียง นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ค่าใช้จ่ายในการหาเสียงไม่เกิน 2 ล้านบาทก็เป็นตัวเลขที่เหมาะสมแล้ว แต่กกต.ต้องมีมาตรการ ควบคุมค่าใช้จ่ายตามกฎหมายอย่างแท้จริง ส่วนหลักเกณฑ์การติดป้ายหาเสียงพรรคการเมืองส่วนใหญ่สนับสนุนให้ขึ้นรูปคู่กับบุคคลในระบบบัญชีรายชื่อได้ด้วย เพราะเป็นคนดี เด่น ดัง มีความสามารถ จึงควรเป็นดุลพินิจของแต่ละพรรคการเมืองที่จะพิจารณาว่าจะใช้รูปบุคคลใดคู่กับผู้สมัคร ส่วนการกำหนดจำนวนป้ายหาเสียงให้มีจำนวนเป็น 2 เท่าของหน่วยเลือกตั้งในเขต และขนาดป้ายหาเสียงให้เท่าเทียมกัน รวมถึงการจัดโซนติดป้ายหาเสียง ก็ถือว่าเป็นพัฒนาการที่ดีขึ้นเพื่อลดความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างพรรคการเมือง จะได้ไม่มุ่งเน้นทำป้ายเพื่อโฆษณาชวนเชื่อเพียงอย่างเดียว และหวังว่า กกต. ต้องเคร่งครัดในการดำเนินการตามกฎหมาย นายชินวรณ์  กล่าวว่า การประชุมในภาคบ่ายร่วมกับกกต. เกี่ยวกับการหาเสียงผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์หรือโซเชียลมีเดีย ควรมีมาตรฐานกติกาให้ชัดเจน โดยเฉพาะการส่งข้อมูลอันเป็นเท็จ หากพบการกระทำผิดให้มีมาตรการระงับการเผยแพร่ทันที และให้ใบส้มเพื่อดำเนินการกับผู้ก่อเหตุตามกฎหมาย และเสนอให้ยุติการหาเสียงผ่านโซเชียลมีเดียก่อนวันเลือกตั้ง 3 วัน เพื่อเผื่อเวลาได้ทัน