นายภูมิธรรม  เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า สนับสนุนแนวคิดของนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ที่แนะนำให้ กกต. ชุดปัจจุบันเสนอ สนช. แก้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. หรือเสนอให้ คสช. ใช้มาตรา 44 เพื่อให้หมายเลขผู้สมัครเลือกตั้ง เป็นแบบพรรคเดียวเบอร์เดียวทั่วประเทศ

ส่วนข้อกังวลว่า การแก้ไขกฎหมายจะใช้เวลานาน จนอาจทำให้การเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไปนั้น  มั่นใจว่ารัฐบาลมีช่องทางดำเนินการอยู่แล้ว เพราะที่ผ่านมาก็มีการใช้อภินิหารทางกฎหมาย หรือจะใช้การพิจารณาของ สนช. แบบ 3 วาระรวดก็ได้

นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึงการระดมทุนของพรรคเพื่อไทยว่า อาจจะใช้วิธีการรับบริจาคแทน ซึ่งยังอยู่ระหว่างการพิจารณารูปแบบ เพราะเตรียมการไม่ทัน และจะแตกต่างกับที่พรรคพลังประชารัฐทำ เนื่องจาก พรรคพลังประชารัฐ ดูเหมือนมีญาณวิเศษ ที่รู้ว่าควรจะต้องเตรียมการอย่างไร เพราะสำหรับพรรคการเมืองอื่น ๆ เตรียมการได้ยาก เพราะไม่มีโอกาสรู้ล่วงหน้าว่าจะมีการปลดล็อกเมื่อใด และเมื่อมีการปลดล็อกแล้ว การเตรียมการต่าง ๆ ก็ไม่ทันแล้ว

นอกจากนั้นตามกฎหมายพรรคการเมือง การระดมทุน ก็สามารถทำได้ก่อนประกาศพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง ซึ่งตามกำหนด คาดว่า จะประกาศในวันที่ 2 มกราคม 2562 ก็จะไม่ทันการ

"การระดมทุน จัดโต๊ะจีนของพรรคพลังประชารัฐ ที่ขายโต๊ะจีน 3 ล้าน 200 โต๊ะ อาจสวนทางกับชีวิตของประชาชน ที่ยังยากลำบาก สะท้อนได้ว่า พรรคพลังประชารัฐมีศักยภาพ ทั้ง ๆ ที่รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องก็ยังพูดเรื่องความยากจนของประชาชนอยู่ ซึ่งชี้ได้เห็นได้ชัดเจนว่า ในสังคมยังมีความเหลื่อมล้ำ"นายภูมิธรรมกล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวด้วยว่า อยากให้ กกต. และ ป.ป.ช. ไปตรวจสอบการระดมทุนดังกล่าวว่ามีข้าราชการ หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในปัจจุบัน ไปซื้อเก้าอี้ด้วยหรือไม่ เพราะการจ่ายเงิน 300,000 บาท เพื่อไปรับประทานอาหารเพียง 1 มื้อ ถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างผิดปกติ