25 พรรคการเมืองลงนาม "สัญญาขอให้ไว้กับประชาชน"

by ThaiQuote, 21 ธันวาคม 2561

วันนี้ (21 ธ.ค. 61) ที่โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ มูลนิธิสันติภาพและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย ร่วมจัดพิธีลงนาม "สัญญาที่พรรคการเมืองขอให้ไว้กับประชาชน"เพื่อให้พรรคการเมืองต่างๆ แสดงความมั่นใจแก่ประชาชนว่าการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 24 ก.พ.62 จะเป็นไปโดยเสรี สุจริต และเที่ยงธรรมโดยพรรคการเมืองจะหาเสียงเลือกตั้งด้วยกระบวนการที่มีจรรยาบรรณและให้การจัดตั้งรัฐบาลหลักการเลือกตั้งเป็นไปโดยเคารพเสียงและความต้องการของประชาชน โดยทางมูลนิธิสันติภาพและวัฒนธรรมฯ หวังว่าการทำสัญญาครั้งนี้จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยลดความขัดแย้งทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง   โดยการทำสัญญาดังกล่าวมีตัวแทนพรรคการเมืองต่างๆ เข้าร่วมจำนวน 25 พรรค ร่วมพิธีลงนามส่วนพรรคการเมืองที่ไม่ได้ร่วมลงนามในวันนี้ทางมูลนิธิสันติภาพและวัฒนธรรมฯ ยังเปิดโอกาสให้ร่วมลงนามเพิ่มเติมได้จนถึงวันที่ 10 ม.ค.62   ภายในงานวันนี้ มีตัวแทนทูตตัวแทนเครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรี (แอนเฟรล)เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน โดย น.ส.จันดานีวาตาวาละผู้อำนวยการแอนเฟรลกล่าวแสดงความยินดีที่ประเทศไทยกำลังจะมีการเลือกตั้ง และหวังว่าทางมูลนิธิอัลเฟรลจะได้ร่วมสังเกตการการเลือกตั้งของไทยด้วย   ด้าน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมาเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวแสดงความคาดหวังต่อการเลือกตั้ง ว่า การทำสัญญาร่วมกันของพรรคการเมืองในวันนี้เพื่อให้การเลือกตั้งที่เป็นไปโดยสันติ และไม่มีการทุจริต เพราะการทุจริตในการเลือกตั้งส่งผลทำให้ประชาธิปไตยตกต่ำลงหรือการใช้อำนาจเพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนนิยมทางการเมือง การซื้อเสียง ถือเป็นการทำลายประชาธิปไตยอย่างไรก็ตาม หวังว่าพรรคการเมืองต่างๆ จะสามารถปฏิบัติให้เป็นไปตามสัญญาดังกล่าว เพื่อให้เกิดการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ และเที่ยงธรรม   หลังจากนั้นผู้เข้าร่วมได้ร่วมกันอ่านคำสัญญาที่พรรคการเมืองให้ไว้กับประชาชนก่อนที่จะมีการลงนาม ด้วยถ้อยคำว่า ก่อนการเลือกตั้งพรรคการเมืองขอให้สัญญาว่า จะปฏิบัติตามจรรยาบรรณการหาเสียงเลือกตั้งคือ จะปฏิบัติตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ กฎหมายเลือกตั้งและกฎระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้งที่กำหนดขึ้นตามหลักนิติธรรมและตามมาตรฐานสากลจะไม่กระทำการใดๆที่เป็นการซื้อเสียง จะไม่ใช้และพร้อมที่จะต่อต้านการใช้กลไกหรือทรัพยากรของรัฐเพื่อประโยชน์ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียงเลือกตั้งจะรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งด้วยสันติวิธีและไม่ใช้ความรุนแรงใดๆ จะไม่ใช้ถ้อยคำและภาษาที่ร้อนแรง จะไม่ให้ผู้อื่นเสื่อมเสียชื่อเสียงโดยเฉพาะอย่างยิ่งจะไม่ใช้การข่มขู่และไม่ใช้วาจาที่ปลุกเร้าให้เกิดความรุนแรงและจะเคารพสิทธิ์ของพรรคการเมืองทุกพรรค  ที่จะรณรงค์หาเสียงโดยปลอดจากความหวาดกลัว และการถูกข่มขู่และขอยืนยันว่าจะไม่ไปก่อกวนการรณรงค์หาเสียงของพรรคการเมืองใดๆ   ทั้งนี้ หลังการเลือกตั้ง พรรคการเมืองขอให้สัญญาว่าจะเคารพเสียงของประชาชนและเร่งดำเนินการเพื่อให้เกิดความสงบสุขและเป็นธรรม  พรรคการเมืองที่ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลจะต้องมีเสียงสนับสนุนเกินกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร  พรรคการเมืองที่จะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลจะนำนโยบายที่แต่ละภาคใช้ในการหาเสียงมาบูรณาการกันอย่างจริงจัง  และให้ความสำคัญแก่การจัดทำนโยบายร่วมกันนี้ในการลำดับก่อนการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีจะสนับสนุนให้รัฐจัดให้มีกลไกที่ใช้หลักของความเป็นธรรมในช่วงเปลี่ยนผ่าน เพื่อเสนอแนะการปรองดองและเยียวยาผู้เสียหายจากการกระทำของรัฐ และการกระทำด้วยเหตตุจูงใจทางการเมืองจะสนับสนุนกระบวนการพูดคุยสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้  ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ เพื่อให้บรรลุข้อตกลงของการอยู่ร่วมกันด้วยความเคารพซึ่งกันและกันและอย่างสันติและเพื่อความเป็นธรรมระหว่างการบริหารราชการส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น