“สมคิด”พาไทยจับมือ "ฮ่องกง" ปลุกตลาดดันยอด 1.5 หมื่นล.

by ThaiQuote, 28 กุมภาพันธ์ 2562

“สมคิด”พบผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง รุกเจรจาการค้า-ลงทุนเซ็น MOU 4 ฉบับหนุนสตาร์ตอัพ-สมาร์ทซิตี้ หวังเป็นเกตเวย์เชื่อมจีน กระตุ้นตลาดการค้า 15,000 ล้านเหรียญฯ

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 - นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ ภายหลังความสำเร็จจากการเยือนเขตปกครองพิเศษฮ่องกง เมื่อเมษายน 2560 และมีนาคม 2561 ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจและการค้าการลงทุนระหว่างไทยและฮ่องกง โดยรัฐบาลให้การต้อนรับนางแครี่ หล่ำ (Carrie Lam) ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง พร้อมด้วยคณะภาครัฐและเอกชน ที่เดินทางมาไทยในระหว่างวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์ 2562 และได้ใช้โอกาสนี้ในการเปิดสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกง หรือ Hong Kong Economic and Trade Office (HKETO) ที่กรุงเทพฯ

“ฮ่องกงเล็งเห็นถึงศักยภาพของไทยในการเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคอาเซียน จึงได้ให้ความสำคัญในการเข้ามาเปิดสำนักงาน HKETO ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศไทยในด้านการค้า และการลงทุนในสายตาของผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างประเทศ อีกทั้งจะส่งผลดีต่อการขยายการค้า การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจอื่นๆ ตามมา และหลังจากการเยือนในครั้งนี้ ทางฝ่ายฮ่องกงจะได้มีการจัดคณะผู้แทนการค้าจากภาครัฐและเอกชน เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างต่อเนื่องในเดือนเมษายน และพฤษภาคม 2562 ตามลำดับ” นายสมคิด กล่าว

รองนายกฯ กล่าวอีกว่า ยังได้ใช้โอกาสนี้ ในการหารือกับฮ่องกง เพื่อขยายความร่วมมือทางด้านการค้า การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยฮ่องกงจะมองไทยในฐานะ Gateway เข้าสู่อาเซียน และไทยจะใช้ฮ่องกง เป็นประตูเจาะเข้าสู่ตลาดจีน ใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ฮ่องกง (ASEAN - Hong Kong Free Trade Agreement: AHKFTA) และความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างอาเซียน-ฮ่องกง (ASEAN - Hong Kong Investment Agreement: AHKIA) ซึ่งเริ่มเจรจามาตั้งแต่ปี 2557 กำลังจะมีผลบังคับใช้ในกลางปี 2562 รวมทั้ง การใช้ประโยชน์จาก Greater Bay Area หรือ GBA ที่เป็นเขตเศรษฐกิจเชื่อมฮ่องกง มาเก๊า และเขตสามเหลี่ยมปากแม่น้ำจูเจียงในมณฑลกวางตุ้งรวม 11 เมือง ที่เชื่อมฮ่องกงในฐานะ Super Connector กับเส้นทางสายไหม (Belt & Road Initiative : BRI) ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ด้านโครงสร้างพื้นฐานของจีน และสามารถเชื่อมโยงด้านการค้าการลงทุนเข้ากับเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ของไทย ซึ่งรัฐบาลไทยมุ่งหวังให้เป็นเขตเศรษฐกิจชั้นนำของอาเซียน ดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ หรือ S-Curve ทั้งจากไทยและต่างประเทศ เพื่อรองรับกับการเติบโตของเศรษฐกิจสู่การเน้นวิทยาการและนวัตกรรมและนำพาประเทศไทยไปสู่ยุค 4.0 โดยเฉพาะสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูงและธุรกิจบริการ และรัฐบาลยังได้ผลักดันการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ระหว่างเอเชียตะวันออก – อาเซียน – เอเชียใต้ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงและเป็นที่สนใจของนานาประเทศ รวมถึงเพื่อรองรับการขยายตัวทางการค้าทั้งแบบดั้งเดิมและการค้าขายออนไลน์ (E-Commerce) ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย

“เชื่อว่าจะเปิดโอกาสเรื่องการขยายความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน และความร่วมมืออื่น ๆ ฮ่องกงถือเป็นประตูสู่ตลาดจีน กวางตุ้ง ที่ผ่านมาไทยและอาเซียนได้ลงนามข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ฮ่องกง จะมีผลบังคับใช้เร็วนี้ ๆ รวมถึงการใช้ประโยชน์จาก Greater Bay Area หรือ GBA ที่เป็นเขตเศรษฐกิจเชื่อมฮ่องกง มาเก๊า และเขตสามเหลี่ยมปากแม่น้ำจูเจียง ในมณฑลกวางตุ้ง รวมทั้งการเชื่อมโยงการลงทุนเข้ากับระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ของไทย” นายสมคิด กล่าว

ทั้งนี้ในปี 2562 ประเทศไทยเป็นประธานอาเซียนและได้ประกาศแนวคิดหลัก คือ “Advancing Partnership for Sustainability” หรือ “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน” ซึ่งบ่งบอกถึงทิศทางการขับเคลื่อนอาเซียนที่ในด้านความยั่งยืน ความเชื่อมโยง และการมองไปสู่อนาคต บนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกันทั้งภาคีภายนอกภูมิภาคและประชาคมโลก ฮ่องกงจึงถือเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่สำคัญของทั้งภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย

นอกจากนี้ ภายในงานได้จัดให้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ไทย-ฮ่องกง 4 ฉบับได้แก่ ความร่วมมือการพัฒนา startup การจัดตั้ง smart city ซึ่งเป็นผลมาจากการขับเคลื่อนและประสานงานของกระทรวงอุตสาหกรรม 3 ฉบับ ได้แก่ 1.innospace (Thailand) กับ HKTDC 2.innospace (Thailand) กับ Hong Kong Cyberport 3.innospace (Thailand) กับ Ho & Partners Architects Engineers & Devel-opment Consultants Limited (HPA) และฉบับที่ 4 ลงนามกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และ HKTDC เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลโอกาสด้านการลงทุน และการจัดกิจกรรมชักจูงการลงทุนระหว่างทั้งสองฝ่าย

ภายหลังการลงนาม MOU ยังมีการจัดเสวนาให้ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนา Start Up และขยายลู่ทางการค้า การลงทุน โดยผู้บริหารชั้นนำจากหน่วยงานของฮ่องกง ได้แก่ Hong Kong Productivity Council , Hong Kong Cyberport และ HPA รวมทั้งการเสวนาเรื่องโอกาสการค้า การลงทุนของไทยในฮ่องกง โดยอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ทั้งนี้จะมีผู้เข้าร่วมงานสัมมนาประมาณ 1,000 คน

ฮ่องกงถือเป็นคู่ค้าที่สำคัญของอาเซียน ในปี 2018 มีมูลค่าการค้าระหว่างกันถึง 120,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 11 ฮ่องกงถือเป็นคู่ค้าอันดับที่ 9 และเป็นนักลงทุนอันดับที่ 5 ของไทย และคาดว่ามูลค่าการส่งออกไทย-ฮ่องกงในปี 2561 จำนวน 12,563 ล้านเหรียญสหรัฐ จะสามารถขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ร้อยละ 12 ในปี 2562