เจ้าเทคโนโลยีแดนมังกร ฟ้องร้องรัฐบาลสหรัฐฯ กรณีออกกฎหมายความมั่นคงในลักษณะที่เป็นการกีดกันการค้าของธุรกิจหัวเว่ยอย่างไม่เป็นธรรม

รายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่าวันนี้ (7 มี.ค.62) หัวเว่ยได้ดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลส่วนกลางในรัฐเท็กซัสเพื่อโต้แย้งขอความชอบธรรมด้านรัฐธรรมนูญ (constitutionality) มาตรา 889 ในกฎหมาย National Defense Authorization Act (NDAA) ซึ่งประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามบังคับใช้เมื่อเดือน ส.ค.ปีที่แล้ว ส่งผลให้หน่วยงานของสหรัฐฯ และบริษัทคู่สัญญาต่างๆ ถูกห้ามไม่ให้ใช้อุปกรณ์และบริการทุกชนิดของหัวเว่ย

กัว ผิง ประธานกรรมการบริหารหมุนเวียนตามวาระของหัวเว่ย กล่าวว่า “การที่สภาคองเกรสไม่สามารถหาหลักฐานมาสนับสนุนการกีดกันสินค้าของหัวเว่ย จึงทำให้บริษัทเห็นว่าการต่อสู้ทางกฎหมายน่าจะเป็นทางออกที่ดีและเหมาะสม”

“คำสั่งแบนนี้นอกจากไม่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว แต่ยังเป็นการกีดกันหัวเว่ยไม่ให้สามารถแข่งขันอย่างเป็นธรรม ซึ่งท้ายที่สุดแล้วผู้บริโภคในสหรัฐฯ ก็จะเป็นฝ่ายเสียประโยชน์ เราจะเฝ้ารอคำพิพากษาของศาล และเชื่อว่าจะเป็นผลดีทั้งต่อหัวเว่ยและชาวอเมริกัน”

นายกัว ผิง ยืนยันว่าหัวเว่ยเป็นบริษัทเอกชนที่ก่อตั้งเมื่อปี 2530 โดยนายเหริน เจิ้งเฟย และไม่เคยอยู่ภายใต้ "การครอบงำ" โดยรัฐบาลและพรรคคอมมิวนิสต์จีน ด้านนายซ่ง หลิวผิง หัวหน้าคณะที่ปรึกษาด้านกฎหมายของหัวเว่ย กล่าวเสริมว่าหัวเว่ยเป็นบริษัทที่มีประวัติด้านการรักษาความปลอดภัยทางข้อมูลเป็นอย่างดีมาตลอด ซึ่งสามารถตรวจสอบได้

โดยบริษัทเปิดโอกาสให้สื่อต่างชาติเยี่ยมชมศูนย์รักษาความปลอดภัยและความโปร่งใสด้านการเก็บรักษาข้อมูล ที่กรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงของเบลเยียม และศูนย์ความปลอดภัยไซเบอร์ที่เมืองตงก่วน ในมณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน ในสัปดาห์นี้ด้วย