ทึ่ง! “ซินจุย” มัมมี่สาวจีนยุคราชวงศ์ฮั่น 2,000 ปี ไม่เน่า!

by ThaiQuote, 26 เมษายน 2562

“ซินจุย” มัมมี่จีนในยุคราชวงศ์ฮั่น เมื่อ 163 ปีก่อนคริสตกาล ร่างเธอถูกพบหลังผ่านไป 2,000 ปี ตะลึง! แทบไม่เน่าสลายแม้เวลาผ่านไปนับพันปี

 

พื้นที่เมืองฉางชามณฑลหูหนาน ประเทศจีน เมื่อ 163 ปีก่อนคริสตกาล ได้มีร่างไร้วิญญาณของหญิงคนหนึ่งถูกฝังเอาไว้ในสุสานขนาดใหญ่ ร่างนั้นถูกประดับไปด้วยวัตถุล้ำค่ากว่า 1,000 ชิ้น ตั้งแต่อุปกรณ์ แต่งหน้า อุปกรณ์อาบน้ำ และงานไม้ขัดเงาอีกหลากหลายชนิด

ร่างของเธอถูกพบอีกครั้งหนึ่งหลังจากวันนั้นร่วม 2,000 ปี เมื่อมีคนงานก่อสร้างพบสุสานของเธอในปี 1971 และเมื่อนักวิยาศาสตร์ตัดสินใจเปิดสุสานของเธอ พวกเขาก็ต้องแปลกใจเป็นอย่างมาก เพราะร่างของหญิงคนนี้นั้น แทบจะไม่ได้เน่าเปื่อยเสียหายไปเลย

หญิงคนนี้มีนามว่า “ซินจุย” ผู้ซึ่งมีชีวิตอยู่ในสมัยราชวงศ์ฮั่น (ราชวงศ์ที่ครองบัลลังก์ตั้งแต่เมื่อ 206 ปีก่อนคริสตกาล จนถึง ค.ศ. ที่ 220) และในปัจจุบันถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งในมัมมี่ที่มีความสมบูรณ์มากที่สุดในโลก

 

 

อ้างอิงจากทีมนักวิทยาศาสตร์ที่ระบุว่า ร่างของเธอนั้นยังคงความนุ่มของผิวคนไว้ได้เป็นอย่างดีแม้ว่าจะผ่านเวลามามากกว่า 2,000 ปี แถมเส้นขนส่วนใหญ่ก็ยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ทั้งผมบนศีรษะ ขนคิ้ว ขนจมูก หรือแม้กระทั่งขนตา

นอกจากผิวหนังด้านนอกที่ยังสมบูรณ์แล้ว ซินจุยก็ยังมีเครื่องในอยู่อย่างครบถ้วน แถมยังมีเลือดเหลืออยู่จนทำให้นักวิทยาศาสตร์บอกได้ว่าเธอมีเลือดกรุ๊ปเอ

เป็นที่น่าเสียดายว่าในตอนที่มีชีวิตอยู่ ไม่มีบันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับเธอมากเท่าที่ควร เมื่อเทียบกับความมหัศจรรย์ของสภาพความเป็นมัมมี่

 

 

อย่างไรก็ตาม จากการพิสูจน์ศพพบว่าเธอน่าจะเสียชีวิตในตอนที่อายุได้ราวๆ 50 ปี สาเหตุมาอาจมาจากการที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย เนื่องจากมีการพบร่องรอยของอาการความดันโลหิตสูง โรคตับ ปริมาณคอเลสเตอรอลสูง และร่องรอยการอุดตันในเลือด ซึ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเธอเสียชีวิตจากโรคหัวใจ

ทั้งนี้ ถึงแม้ใบหน้าของเธอที่เราเห็นในปัจจุบันอาจจะบวมและดูน่ากลัวอยู่บ้าง แต่นั่นก็เป็นเพราะร่างกายของเธอถูกเก็บมานาน และในตอนที่หลุมศพของเธอถูกขุด ร่างได้ไปสัมผัสกับออกซิเจน ทำให้การเสื่อมสภาพเริ่มเกิดขึ้นอีกครั้งอย่างรวดเร็ว

 

ใบหน้าของ “ซินจุย” ที่นักวิทยาศาสตร์จำลองขึ้นจากข้อมูลที่มี

ที่ร่างของเธอถูกเก็บไว้เป็นอย่างดีเช่นนี้ นักโบราณคดีเชื่อว่าเป็นเพราะเธอนั้นถูกเก็บไว้ในสุสานใต้ดินที่ลึกเกือบ 12 เมตร และมีการใช้โลงศพหลายชั้นซึ่งทำให้ลมเข้าไม่ได้ และลดการเน่าเปื่อยลงได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ตัวเธอยังถูกพันไว้ด้วยผ้าไหมและแช่ด้วย “ของเหลวไม่ทราบที่มา” ซึ่งมีความเป็นกรดอ่อนๆ และมีส่วนผสมของแมกนีเซียมซึ่งเป็นไปได้ว่ามีส่วนช่วยในการป้องกันแบคทีเรีย

เรียกได้ว่าแทบทุกสิ่งในสุสานของเธอนั้นออกแบบมาเพื่อป้องกันการเน่าสลายเลยก็ไม่ผิดนัก

 


ด้วยความใส่ใจในการรักษาความงาม แม้หลังความตายก็ทำให้ร่างของหญิงคนหนึ่งยังเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี จนกลายเป็นมัมมี่สุดโด่งดัง ที่หลงเหลือมาให้คนรุ่นหลังได้มีโอกาสเยี่ยมชมความมหัศจรรย์นี้ไปอีกนานแสนนาน

 

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
พบงานศิลปะยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่พิษณุโลก