"ประชาธิปัตย์" กระตุกรัฐ ปีหน้าลงทุนต้องรอบคอบ มั่นใจเศรษฐกิจยังไปได้ดี

by ThaiQuote, 17 ธันวาคม 2562

ทีมเศรษฐกิจ "ประชาธิปัตย์" มั่นใจเศรษฐกิจไทยปี '63 ยังพอไปได้ "ไม่ฟุบ-แต่ไม่หวือหวา" กระตุกรัฐกระตุ้นระยะสั้นทำบ่อยไม่ดี แต่ควรวางรากฐานลงทุนระยะยาวตีคู่ไปด้วย ส่วน EEC ระบบขนส่งรัฐต้องเล่นเอง 100%

นายปริญญ์ พานิชภักด์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรค สะท้อนปัจจัยผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจของประเทศในปี 2563 ภายในวงเสวนา "มุมมองเศรษฐกิจ 2563 ฟุบหรือฟื้น" โดยระบุว่าในปี 2563 จะมีปัจจัย 3 ประการที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจประเทศ คือ 1.อัตราการว่างงาน 2.นโยบายด้านการเมือง และ 3.ความสามารถในการแข่งขันของกลุ่มเอสเอ็มอี (SMEs)

 

นายปริญญ์ กล่าวว่า ควรเร่งพัฒนาแรงงานฝีมือเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง อีกทั้งยังต้องปรับหลักสูตรที่เน้นป้อนคนเข้าสู่ตลาดแรงงานที่ตอบโจทย์ความต้องการในยุคปัจจุบันที่มีการนำหุ่นยนต์ AI และเทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาใช้ ส่วนมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นแม้เป็นเรื่องที่ทําได้ แต่ในระยะยาวควรเน้นการขยายตลาดไปยังต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มประเทศคู่ค้าที่มีศักยภาพ อาทิเช่น จีน อินเดีย

 

 

"ภาคเอกชนควรใช้โอกาสหาพาร์ทเนอร์ต่างประเทศมาเสริมความสามารถ เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงอาจจะต้องเล็งซื้อเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจ หรือกิจการของตัวเอง" นายปริญญ์ กล่าว

ขณะที่นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อีกหนึ่งรองหัวหน้าประชาธิปัตย์ กล่าวถึงประเด็นการลงทุนในระบบคมนาคมขนส่งของภาครัฐว่า ยังคงเห็นว่าการลงทุนระบบขนส่งคมนาคมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)นั้น รัฐบาลควรจะต้องลงทุนเองทั้ง 100% เพื่อให้เกิดการประหยัดงบประมาณ และง่ายต่อการบริหารจัดการ แต่ในส่วนโครงการรถไฟความเร็วสูง ก็น่าจะเปิดโอกาสให้จีนเข้ามาร่วมลงทุน เพื่อเป็นการดึงเม็ดเงินเข้าประเทศ และยังมีผลพลอยได้จากการเปิดรับนักท่องเที่ยวจีนเข้ามามากยิ่งขึ้นด้วย

 

 

"แต่สิ่งสำคัญคือรัฐบาลต้องเร็ว ไม่ล่าช้า และต้องโปร่งใส อีกทั้งจะลงทุนอะไรก็ต้องเลือกโมเดลที่เหมาะสมในแต่ละโครงการด้วย" นายสามารถ กล่าว

นายพิสิฐ ลี้อาธรรม ประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น รัฐบาลไม่ควรจะต้องทำมากเกินไป เพราะมันไม่ช่วยแก้ปัญหาในระยะยาว แต่สิ่งที่รัฐควรจะต้องทำควบคู่กันไปกับการกระตุ้นระยะสั้น คือ มาตรการลงทุนของภาครัฐ หรือ Investment การใช้จ่ายของภาครัฐ หรือ Government Expenditure และการบริโภคในประเทศ หรือ Consumption หากทำได้ตามนี้ เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยยังไปได้แน่ในปี 2563 แต่ก็อาจไม่หวือหวา

 

 

ด้านนายธราดล เปี่ยมพงศ์สานต์ ผู้อำนวยการสถาบันออกแบบอนาคตประเทศไทย กล่าวว่า การทำนโยบายทางด้านเศรษฐกิจท้ายที่สุดต้องวางเป้าหมายไปสู่ความยั่งยืน การพัฒนาคนจึงเป็นสิ่งสำคัญ และนโยบายทางด้านการศึกษาจะเข้ามามีส่วนในการช่วยพัฒนาการเติบโตทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการผลิตแรงงานฝีมือป้อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน เนื่องจากในปัจจุบันแรงงานที่อยู่ในภาคเกษตรมีสัดส่วนลดลงซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์การเปลี่ยนแปลง จึงต้องเร่งสร้างแรงงานฝีมือที่มีคุณภาพเข้าสู่ระบบ

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

“เกศปรียา” งัดลิงค์กฎกระทรวง แจง "ภาษีผ้าอนามัย"