รองนายกฯ" สมคิด" ชี้ทางออกประเทศไทย

by ThaiQuote, 15 มกราคม 2563

"สมคิด" ชี้ทางออกประเทศไทยหลังกฎหมายผ่านสภา คาดเงินลงทุน-งบประมาณอัดฉีดออกสู่ระบบนับล้านล้านบาท เผยประมูล 5 จี รองรับเศรษฐกิจยุคใหม่ มุ่งพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก

 

วันที่ 15 มกราคม 2563 - นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อเรื่อง “2020 ปีแห่งการลงทุน ทางออกประเทศไทย” ว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันอยู่ในสถานะต้องบริหารจัดการให้ดี เพราะต้องเจอพายุหนัก หรือระเบิด 2 ลูก ลูกแรกเป็นระเบิดเหนือน้ำ คือ สงครามทางการค้าจีน-สหรัฐ จนกระทบการส่งออกในปี 62 ติดลบ เพราะสินค้าส่งออกสำคัญเชื่อมโยงกับตลาดจีน สหรัฐ เมื่อการส่งออกหดตัวจึงกระทบจีดีพีถึงร้อยละ 70 จึงขอให้เหตุการณ์คลี่คลาย ส่วนระเบิดลูก 2 เป็นระเบิดใต้น้ำ จากปัญหาโครงการลงทุนหลายโครงการเกิดความล่าช้า ยังไม่เริ่มลงทุนได้ จึงทำให้นักลงทุนตัดสินใจช้าตามไปด้วย แต่ยอมรับว่า ปัญหาค่าเงินบาทแข็งค่าอาจกลายเป็นระเบิดลูกที่ 3 กระทบการส่งออก เพราะนักลทุนมองว่า เศรษฐกิจชะลอตัว ต้องเก็บเงินเอาไว้ก่อน จึงขอให้นักลงทุนเอกชนลงทุนในประเทศ เพื่อนำเข้าเครื่องจักร อุปกรณ์ หวังช่วยเพิ่มแรงผลักดันให้เงินบาทแข็งค่าอีกด้านหนึ่ง จึงต้องเรียกร้องทุกฝ่ายร่วมกัน
ไม่ใช่กดดันแบงก์ชาติ เพียงอย่างเดียว

นายสมคิด ย้ำว่า ขณะนี้เร่ิมมีแสงสว่าง เมื่องบประมาณรายจ่ายปี 63 เพิ่งผ่านสภาผู้แทนราษฎร ปลายสัปดาห์ก่อน โดยต้องเร่งรัดอัดฉีดเงินลงทุนและงบประจำออกสู่ระบบช่วงไตรมาส 2 เพิ่มจากจากร้อยละ 23 จากปลายปี เพิ่มเป็นร้อยละ 54 ของเงินงบประมาณ หรือ วงเงิน 1 ล้านล้านบาท จากนั้นจะเบิกจ่ายต่อเนื่องไตรมาส 3 ได้กว่าร้อยละ 70 และเต็มร้อยเปอร์เซ็นในเดือนกันยายนไตรมาสสุดท้ายปีงบประมาณ หลังจากได้เร่งรัดเงินลงทุนรัฐวิสาหกิจช่วงปลายปี จึงออกสู่ระบบได้ตามเป้าหมายแสนล้านบาท จึงเรียกประชุมผู้บริหารรัฐวิสาหกิจกำหนดทิศทางในช่วงบ่ายวันนี้ ในส่วนของ บีโอไอ ต้องเป็นกำลังหลัก ดึงดูดการลงทุน หลังจากบรรลุเป้าหมายลงทุน 750,000 ล้านบาทในปี 62 ขณะที่สำนักงานอีอีซีต้องขับเคลื่อนการลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมาย ทั้งรถไฟฟ้า เชื่อม 3 สนามบิน ท่าเรือแหลมฉบัง นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และอีก 2 วัน (ศุกร์นี้) จะรู้ผลผู้ชนะประมูลจากการเปิดซองประกวดราคาสร้างสนามบินอู่ตะเภา ทำให้การลงทุนภาคเอกชนเร่ิมดีขึ้น

นอกจากนี้ กสทช. ยังต้องเร่งเครื่องประมูลระบบ 5 จี เพื่อรองรับเศรษฐกิจดิจิตอล ในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค.63 เพราะระบบ 5 จี เป็นกลไกหลักสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใมม่ และปัจจัยสำคัญอีกด้านคือ การผลักเศรษฐกิจฐานราก ทั้งท่องเที่ยวและบริการ พัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ภาคการผลิต เกษตรแปรรูป เพราะทำให้ภาคชุมชนแข้มแข็ง โดยต้องเชื่อมโยงทุกองค์กรเข้ากับ ธ.ก.ส. ระดมหน่วยงานเข้าร่วม เช่น ปตท. ร่วมสร้างตลาดไทยเด็ด ขายสินค้าชุมชน ส่วน กฟผ. ร่วมสร้างปั๊มเต็มแบตรองรับรถไฟฟ้า โรงไฟฟ้าชุมชน นับเป็นส่วนหนึ่งของฐานราก ยกระดับไปสู่สมาร์ทฟาร์เมอร์ โดยมี บีโอไอ ออกมาตรการดึงดูดการลงทุนร่วมกันคนยุคใหม่พัฒนาฐานราก แปรรูปสินค้าเกษตร และได้ผลไปสู่บริษัทแม่ จูงใจเอกชนเข้ามาลงทุน

รวมทั้งการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG เพื่อให้บีโอไอ ให้สิทธิการลงทุนเป็นกรณีพิเศษ และพยายามดึงรัฐวิสาหกิจเข้ามาลงทุนตามนโยบายที่กำหนดไว้ นอกจาก กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายแห่งอนาคต อีกด้านที่สำคัญ คือการผลักดันเศรษฐกิจ Creative Economy ภาพยนต์ แอนนิเมชั่น ดีไซด์ แต่ยอมรับว่ายังไม่มีหน่วยงานดูแล จึงต้องหาทางเร่งรัด เพราะเป็นสาขาขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญอีกด้าน หากเศรษฐกิจโลกผ่อนคลายลง เศรษฐกิจไทยหลังจากนั้นจะเติบโตได้ดีขึ้น จึงต้องสร้างโครงสร้างพื้นฐานให้แข้มแข็ง ไม่ใช่เพียงการพึ่งยากระตุ้นเศรษฐกิจตลอดเวลา

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

ออมสิน ตั้งเป้าปล่อยกู้ปี 63 ที่ 5.5แสนล้าน ยึดฐานลูกค้า 41% ทั้งปท.