นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะ กรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังแจ้ง สำนักงาน ก.ล.ต. กระทรวงคมนาคม และ บมจ.การบินไทยไปแล้วในข่วงเย็นวันที่ 22 พ.ค.63 สำหรับขั้นตอนการแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นหน้าที่ของการบินไทย เป็นผู้ทำหนังสือชี้แจง โดยผลการขายหุ้นดังกล่าว ส่งผลให้การบินไทยมีสภาพเป็นบริษัทมหาชนเหมือนกับบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯทั่วไป จึงไม่มีสภาพเป็นรัฐวิสาหกิจแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงคลังขายหุ้นการบินไทย ให้กับกองทุนวายุภักษ์ 1 ในสัดส่วน 3% เพื่อลดการถือหุ้นจาก 51.03% เหลือ 48% การบริหารงาน เปลี่ยนจากรัฐวิสาหกิจตาม พ.ร.บ.คุณสมบัติกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2518 และพ.ร.บ.แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2543 ทำให้เกิดความสะดวกต่อการบริหารแผนฟื้นฟู

รายงานดังกล่าว ยังระบุว่า สัดส่วนที่กระทรวงการคลังได้ขายหุ้น บมจ.การบินไทย (THAI) ให้กับกองทุนรวมวายุภักษ์ 1 นั้นเป็น จำนวน 69 ล้านหุ้น ในราคา หุ้นละ 4.03 บาท รวมมูลค่า 278 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของกระทรวงการคลังลดลงราว 3.17% จากเดิมที่ถืออยู่ 51%

อย่างไรก็ตามจากข้อมูลตลาดหลักทรัพย์ ณ วันที่ 1 เมษายน 2563 ผู้ถือหุ้นใหญ่ 5 อันดับแรก การบินไทย มีดังนี้

อันดับ 1. กระทรวงการคลัง 1,113,931,061 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 51.03%

อันดับ 2. กองทุนรวม วายุภักษ์ 1 โดย บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) จำนวน 165,037,582 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 7.56%

อันดับ 3. กองทุนรวมวายุภักษ์ 1 โดย บลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) 165,037,582 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 7.56%

อันดับ 4. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด จำนวน 71,645,528 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 3.28%

อันดับ 5. ธนาคาร ออมสิน จำนวน 46,409,885 คิดเป็นสัดส่วน 2.13%

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สื่อนอกชี้ “การบินไทย” เจ๊ง! เพราะ การเมืองแทรกแซง

คนลงทะเบียน “เราไม่ทิ้งกัน” ไม่สำเร็จ เตรียมเฮ คลังพร้อมเก็บตกอีก 1.7 ล้านราย