ปตท. รวมพลังสร้าง “ชุมชนยิ้มได้” กระจายรายได้เพื่อเกษตรกรไทยสู้วิกฤต COVID-19

by ThaiQuote, 2 มิถุนายน 2563

ปตท.ช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 โดยจัดทำโครงการ “ชุมชนยิ้มได้” รวมพลังสร้างรอยยิ้มเพื่อเกษตรกรไทย นำผลผลิตของเกษตกรมาช่องทางต่าง ๆ ของ ปตท.เพื่อเพิ่มโอกาสช่องการขาย

 

มาตรการสนับสนุนให้ชุมชนเข้มแข็งถือเป็นหนึ่งในนโยบายรับผิดชอบต่อสังคมที่ ปตท.ได้ประกาศต่อสาธารณชนในหน้าเว็บไซต์ของตนเองว่า “ปตท. เน้นให้ความสำคัญกับการดำเนินงานเพื่อสังคมในระดับนโยบายสู่ระดับปฏิบัติ ครอบคลุมใน 2 มิติ สำคัญ ได้แก่ มิติด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ชุมชน และสังคม (People) มุ่งเน้นการ เสริมสร้างศักยภาพ และความสามารถของทรัพยากรมนุษย์ ตลอดจนส่งเสริมศักยภาพชุมชน ให้มีความเข้มแข็ง พึ่งพาตนเองได้

และมิติด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม (Planet) เพื่อสนับสนุนการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ควบคู่ กับการสร้างความตระหนัก ส่งเสริมความร่วมมือในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมร่วมกับเครือข่ายภาคส่วนต่าง ๆ”

 

 

ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ COVID-19 ที่ส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจของประเทศไทยถดถอยอย่างรุนแรง กลุ่ม ปตท. ได้เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าวจึงร่วมให้การสนับสนุนช่วยเหลือสังคมตามนโยบายของรัฐบาลผ่านโครงการต่างๆ มากมายโครงการ “ชุมชนยิ้มได้” รวมพลังสร้างรอยยิ้มเพื่อเกษตรกรไทย เป็นอีกหนึ่งโครงการที่กลุ่ม ปตท. ได้จัดขึ้นเพื่อเข้าช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรไทยที่กำลังประสบปัญหาในการจัดจำหน่ายสินค้าและบริการ พร้อมสร้างช่องทางการขายและช่วยกระจายรายได้อย่างทั่วถึง ให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาวจนเกิดเป็นพลังพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป


โครงการ “ชุมชนยิ้มได้” รวมพลังสร้างรอยยิ้มเพื่อเกษตรกรไทย ถือว่าเป็น “พลังพัฒนา เศรษฐกิจชุมชน” ที่กลุ่ม ปตท. ได้ผสานองค์ความรู้และศักยภาพด้านนวัตกรรม วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเสริมช่องทางประชาสัมพันธ์ สร้างการตลาดชุมชน เพื่อสนับสนุนการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนเครือข่ายตำบลวิถีพอเพียงในช่วงการระบาดของ COVID-19 ผ่านช่องทางประชาสัมพันธ์ออนไลน์ของกลุ่ม ปตท.

 

 

พร้อมส่งเสริมโอกาสทางการตลาดของสินค้าชุมชนเครือข่าย ปตท. ควบคู่ไปกับการสนับสนุนการตลาดออนไลน์ภายนอกตามแนวคิดการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ซึ่งก่อให้เกิดการยกระดับสินค้าและสร้างโอกาสทางด้านธุรกิจให้แก่ชุมชนต่อไป

โดยสินค้าที่นำมาจำหน่ายในโครงการดังกล่าวมีมากกว่า 180 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ปลอดสารพิษ เช่น มะม่วงมหาชนก มาตรฐาน GMS/KS จากกลุ่มผลิตผักผลไม้ลำหนองแสน จ.กาฬสินธุ์ มังคุดมาตรฐาน Organic Thailand จากสวนอเนกอนันต์ จ.ระยอง ทุเรียนและเงาะออร์แกนิค มาตรฐาน FOAM, US-CANADA, EU, SDGs PGS จ.ระยอง

นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูปคุณภาพเยี่ยมอีกมากมาย เช่น หมี่กรอบสูตรสับปะรด จ.นครศรีธรรมราช ไชโป้วหวาน จากชุมชนเจ็ดเสมียน จ.ราชบุรี เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสินค้าที่ผ่านการคัดสรรคุณภาพตามมาตรฐานสากลจากชุมชนเครือข่ายของ ปตท. ทั่วประเทศ

 

นอกจากนี้ กลุ่ม ปตท. ยังมีบทบาทในการสนับสนุนช่วยเหลือสังคมและร่วมแก้ปัญหาด้านพลังงานเช่นเดียวกัน โดยในระยะที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 กลุ่ม ปตท. ได้มีบทบาทในการสนับสนุนช่วยเหลือด้วยการลดราคาขายปลีกเอ็นจีวี (NGV) ให้กับกลุ่มรถโดยสารสาธารณะที่มีบัตรส่วนลดในอัตรา 3 บาทต่อกิโลกรัม เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 และคงราคา NGV สำหรับรถทั่วไปไว้ที่ 15.31 บาทต่อกิโลกรัม ตั้งแต่ 16 มีนาคม - 15 สิงหาคม 2563

ทั้งยังจัดตั้งโครงสร้าง “คณะกรรมการด้านกิจการเพื่อสังคมกลุ่ม ปตท. เฉพาะกิจ COVID-19” เพื่อสนับสนุนด้านงานวิจัยพัฒนาและ/หรือจัดหาอุปกรณ์ป้องกันให้แก่บุคลากรทางการแพทย์อย่างเร่งด่วน การจัดหาแอลกอฮอล์เพื่อสนับสนุนหน่วยงานด้านสาธารณสุข การระดมความเชี่ยวชาญทางวิศวกรรมและเทคโนโลยีเพื่อให้การสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงการบริจาคเงินแก่โรงพยาบาลเพื่อนำไปต่อยอดเป็นอุปกรณ์หรือเครื่องป้องกันการติดเชื้ออีกด้วย

 

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ