สช.ย้ำ ‘มติบอร์ดสุขภาพชาติ’ เดินหน้าแบน ‘พาราควอต’

by ThaiQuote, 3 กันยายน 2563

“นพ.ประทีป” หนุนประเทศไทยเดินหน้าตามมติคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ปี 2555 ที่เห็นชอบให้ ลด-ละ-เลิก 3 สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ระบุ มีหลักฐานทางวิชาการชัดว่า “พาราควอต” เป็นอันตรายต่อสุขภาพ สช.-ภาคีเครือข่าย จึงไม่เห็นด้วยกรณีที่มีความพยายามจะทบทวนการแบนสารดังกล่าว

 

วันที่ 3 กันยายน 2563 - นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติที่เปรียบเสมือนบอร์ดสุขภาพของชาติ ทำหน้าที่พิจารณาและเสนอแนะทางวิชาการประกอบการจัดทำนโยบายแห่งรัฐ ซึ่งเมื่อปี 2555 ประชุมคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เคยมีมติเรื่อง “ความปลอดภัยทางอาหาร : การแก้ไขปัญหาจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืช” ที่ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ให้มีการลด ละ และเลิกการใช้สารเคมีปราบศัตรูพืช ไกลโฟเสต พาราควอต และคลอร์ไพรีฟอส

นอกจากนี้ คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติยังได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการทบทวนการอนุญาตให้มีการขึ้นทะเบียนสารเคมีกำจัดศัตรูพืชทั้ง 3 ชนิดเพื่อผลักดันเป็นวัตถุอันตราย ชนิดที่ 4 เพราะมีหลักฐานทางวิชาการชัดเจนว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ รวมทั้งในหลายประเทศมีการยกเลิกสารดังกล่าวแล้ว

นพ.ประทีป กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ควรดำเนินการตามมติคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ และไม่ควรทบทวนการประกาศแบนสารพาราควอต แต่ควรเร่งหาวิธีทดแทนการกำจัดศัตรูพืชที่มีความปลอดภัยต่อสุขภาพของประชาชน เพราะประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม เป็นแหล่งอาหารของโลก จึงควรเน้นการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน

“สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) และภาคีเครือข่ายที่ทำงานเรื่องความมั่นคงทางอาหารในภาวะวิกฤต ต่างมีจุดยืนตรงกันว่าไม่เห็นด้วยที่หน่วยงานใดจะผลักดันเพื่อให้มีการทบทวนการแบนสารพาราควอต เนื่องจากมีหลักฐานทางวิชาการยืนยันชัดเจนว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และประเด็นนี้เคยได้รับความเห็นชอบจนเป็นมติคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติมาแล้ว” นพ.ประทีป ระบุ

นพ.ประทีป กล่าวอีกว่า ในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องเลือกใช้สิ่งที่มีความปลอดภัย โดยเฉพาะอาหารและสินค้าเกษตรที่ส่งผลกระทบน้อย และมีความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ สช. และภาคีเครือข่ายกำลังร่วมกันพัฒนาข้อเตรียมพร้อมก่อนเดินทางวันหยุดยาว ง่วงไม่ขับ เลี่ยงแอลกอฮอล์
เสนอเรื่อง “ความมั่นคงทางอาหารในภาวะวิกฤต” เพื่อบรรจุเป็นระเบียบวาระในการประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ 13 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-17 ธันวาคม 2563 นี้

 

ข่าวที่น่าสนใจ