ก.คลัง แจงโครงการ “คนละครึ่ง” ยอดใช้จ่ายสะสม 4,188 ล้านบาท หลังผ่าน 10 วัน กทม.ครองแชมป์ จังหวัดใช้จ่ายสูงสุด ด้านธ.กรุงไทย เร่งเพิ่มเครื่องยืนยันตัวตนกว่า 1,000 เครื่อง ทั่วประเทศรองรับการใช้บริการ

นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงินสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า หลังจากโครงการคนละครึ่งได้เปิดให้ประชาชนใช้จ่ายมา 10 วัน ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2563 ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 2 พฤศจิกายน 2563 เวลา 11.00 น. จำนวนยอดใช้จ่ายสะสม 4,188.30 ล้านบาทแบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 2,139.93 ล้านบาท และรัฐช่วยจ่ายอีก 2,048.37 ล้านบาท ยอดใช้จ่ายเฉลี่ย 225 บาทต่อครั้ง จังหวัดที่มีการใช้จ่ายมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สงขลา นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และเชียงใหม่ ทั้งนี้ มีร้านค้าสมัครเข้าร่วมโครงการกว่า 4.7 แสนร้านค้า

“ประชาชนที่ลงทะเบียนก่อนวันที่ 23 ตุลาคม2563 และได้รับ SMS ยืนยันสิทธิแล้วขอให้ติดตั้งแอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” รวมทั้งยืนยันตัวตนให้เรียบร้อย และจะต้องใช้จ่ายผ่านแอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ภายในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2563 โดยใช้สิทธิซื้อสินค้ากับผู้ประกอบการร้านค้าที่มีแอพพลิเคชั่น “ถุงเงิน” ที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งสามารถใช้จ่ายได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 หากไม่ใช้จ่ายภายใน 14 วัน นับจากวันถัดจากวันที่ได้รับ SMS แจ้งรับสิทธิ จะถูกตัดสิทธิและไม่สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้อีก”

ด้าน นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย กล่าวเผยหลังลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต ตรวจเยี่ยมโครงการ “คนละครึ่ง” พบว่า มีประชาชนจำนวนหนึ่งที่ไม่สามารถยืนยันตัวตนเข้าร่วมโครงการได้สำเร็จหรือมีการใช้งานแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ไม่ได้ เนื่องจากจำรหัสเข้าใช้งานไม่ได้ หรือสแกนหน้าไม่สำเร็จ จึงทำให้ประชาชนกลุ่มดังกล่าวมารอเข้าคิวยืนยันตัวตนที่สาขาเป็นจำนวนมาก และระบบของธนาคารได้ตรวจสอบพบว่ามีการรอคิวจำนวนมากของประชาชนในบางพื้นที่ เช่น สาขาในจ.ขอนแก่น ชัยนาท นครราชสีมา ฯลฯ

ดังนั้น ธ.กรุงไทยจึงได้เร่งดำเนินการเพิ่มเครื่องยืนยันตัวตนกว่า 1,000 เครื่องใน 200 สาขาทั่วประเทศ โดยเฉพาะสาขาที่ระบบตรวจพบว่ามีการรอคิวของประชาชนเป็นจำนวนมาก ตลอดจนเพิ่มจำนวนพนักงานอีกร้อยละ 20 ในแต่ละสาขา เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถยืนยันตัวตนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งได้ทันท่วงทีป้องกันการถูกตัดสิทธิ ตลอดจนแนะนำการใช้งานแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” อีกด้วย

ข่าวที่น่าสนใจ

Smart SME EXPO 2020 เกินเป้า เงินสะพัด 2 พันล้าน SME หน้าใหม่เพิ่มอื้อ!