พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ประชุมหารือระบบ Video Conference ร่วมกับ ผู้บริหารหอการค้าไทย และ 40 CEOs พลัส เรื่องการแก้ไขปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบแนวทางและนโยบายเพิ่มเติมเพื่อการบูรณาการทำงานร่วมกันกับภาคเอกชน ดังนี้

1.ภาครัฐยินดีสนับสนุนให้ภาคเอกชนช่วยเหลือประชาชนร่วมกัน

2.รัฐบาลเปิดโอกาสให้เอกชนช่วยเจรจาหาวัคซีนที่ดีมีคุณภาพ เสริมจากที่ทางรัฐบาลได้เตรียมการไว้ เพื่อให้ประชาชนได้วัคซีนเร็วที่สุด

3. พร้อมเปิดให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อน กระตุ้นเศรษฐกิจและดึงดูดการลงทุน และรับข้อเสนอแนะของ 40 CEOs พลัส ไว้พิจารณาดำเนินการร่วมกันต่อไป

ทั้งนี้หอการค้าไทย และภาคเอกชน 40 CEOs พลัส ได้เสนอแนวทางและความคิดเห็น 4 ประเด็น ดังนี้

1.การควบคุมการแพร่ระบาด

1.1จัดสรรและกระจายวัคซีนอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยมีศูนย์ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล ทั้ง 25 ศูนย์ ซึ่งร่วมกับ กทม. สามารถแบ่งเบาภาระของโรงพยาบาลได้

1.2 การจัดยา อุปกรณ์ทางการแพทย์ และมาตรการ Isolation โดยจัดให้มี Rapid Tests อย่างทั่วถึง ,สนับสนุนให้เอกชนจัดสถานที่ Isolation ,จัดให้มียารักษาอย่างพอเพียง ,เพิ่มจำนวนเตียงผู้ป่วยหนักและ ICU โดยเฉพาะในเขตสีแดงและแดงเข้ม

2 การเยียวยาผู้ประกอบการและประชาชน

2.1 ขยายมาตรการ ในกรณีที่นายจ้างต้องหยุดประกอบกิจการตามคำสั่งของรัฐ ที่เกินกว่า 90 วัน ให้ได้รับการช่วยเหลือ

2.2 เร่งรัดออกมาตรการแก้ไขการขาดแคลนแรงงานต่างด้าว ในอุตสาหกรรม ,เร่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับแรงงานไทยและแรงงานต่างด้าวในประเทศ ,ขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวทุกกลุ่ม ,เจรจานำเข้าแรงงานต่างด้าว MOU จำนวน 500,000 ราย ,ตรวจเชิงรุกในโรงงาน เพื่อป้องกันภาคการผลิตไม่ให้หยุดชะงัก

3 การกระตุ้นเศรษฐกิจ

3.1 กระตุ้นผู้มีรายได้ และผู้มีกำลังซื้อสูง ทบทวนการใช้มาตรการ “ช้อปดีมีคืน” โดยเพิ่มวงเงิน ไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท ซึ่งจะสามารถกระตุ้นให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบได้ไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาทภายใน 1 ไตรมาส

3.2 กระตุ้นเศรษฐกิจจากภาคเอกชนให้ลงทุนเพิ่ม เกิดการจ้างงานหลายแสนราย ผ่านการให้ดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต่ำพิเศษจากสถาบันการเงิน และสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากรัฐบาล และ BOI

3.3 เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ

3.4 ทบทวนความพร้อมในการเข้าสู่ New Economy กำหนดนโยบาย และกฎหมายที่ชัดเจน ปรับโครงสร้างฐานภาษีใหม่

4 การฟื้นฟูประเทศไทย

4.1 ตั้งคณะกรรมการร่วมรัฐเอกชน แสวงหาโอกาสที่เกิดขึ้นในสถานการณ์โควิด ตัวอย่างเช่น ความร่วมมือของ Alliances for Actions (AfA) จากประเทศสิงคโปร์ มุ่งเป้าความสำเร็จในเรื่องที่มี Impact สูง และคนไทยได้ประโยชน์ เช่น เกษตรสมัยใหม่ ท่องเที่ยวคุณภาพสูง การศึกษายุคใหม่ และ Food for future เป็นต้น

4.2 การฟื้นฟูเศรษฐกิจ ด้วย Digital Transformation โดยเสนอให้มี Super App. ที่ช่วยอำนวยความสะดวกกับนักท่องเที่ยวแบบครบวงจร

เรื่องที่น่าสนใจ

ประกันสังคมฯ แจง ผู้ถือบัตรทอง-บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สมัคร ม.44 ได้ พร้อมรับสิทธิเพิ่ม