ครม.อนุมัติลดค่าภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 3 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ราคาน้ำมันโลกปรับสูง

by ThaiQuote, 15 กุมภาพันธ์ 2565

ครม.ไฟเขียวให้ปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 3 บาท เป็นเวลา 3 เดือนนับตั้งแต่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งคาดว่าอยู่ระหว่างกุมภาพันธ์-เมษายน 65 ส่วนราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นทุกชนิด

 

วันที่ 15 ก.พ. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 3 บาท จากปัจจุบันที่จัดเก็บในอัตราลิตรละ 5.99 บาท โดยจะปรับลดลงประมาณ 3 เดือน (ก.พ.-เม.ย.) ทั้งนี้ มีผลหลังจากราชกิจจานุเบกษาประกาศ

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ ผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมหารือเกี่ยวกับการลดภาษีน้ำมันดีเซลดังกล่าว โดยประเด็นที่กระทรวงการคลังเป็นห่วงไม่ใช่แค่การลดภาษีน้ำมันแล้วกระทบรายได้ของกรมสรรพสามิต แต่ยังห่วงไปถึงการปิดหีบรายได้ของรัฐบาลด้วย เพราะภาษีน้ำมันดีเซลก็ถือเป็นรายได้สำคัญ หากรายได้ส่วนนี้หายไป รัฐบาลจะนำรายได้ส่วนอื่นมาชดเชยได้ยาก

ข้อมูลจาก สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) พบว่า ในน้ำมันทุก 1 ลิตร จะประกอบด้วย ต้นทุนเนื้อน้ำมัน (40% – 60%) คือ ต้นทุนราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ผลิตจากโรงกลั่น ซึ่งอ้างอิงราคาตามตลาดกลางภูมิภาคเอเชีย ตรงนี้เองเป็นส่วนที่ควบคุมไม่ได้ เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศนำเข้าน้ำมันราว 90% ดังนั้น ต้นทุนเนื้อน้ำมันจะอ้างอิงตามราคา ตลาดสิงคโปร์ ซึ่งมีราคาน้ำมัน Dubai และ SGX เป็นราคาอ้างอิงสำหรับภูมิภาคเอเชีย และที่ต้องอ้างอิงตามราคาตลาดสิงคโปร์เนื่องจาก เป็นจุดที่ใกล้กับประเทศไทยมากที่สุด ต้นทุนในการขนส่งน้ำมันจะถูกกว่าการขนส่งจากจุดอื่น ซึ่งสิงคโปร์เป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปรายใหญ่ที่สุดในเอเชีย

ต้นทุนต่อมาคือค่าการตลาด (10% – 18%) คือ ส่วนที่เป็นต้นทุน ค่าใช้จ่าย และกำไรของธุรกิจค้าปลีกน้ำมันทั้งระบบ ตั้งแต่การจัดการคลังน้ำมัน การขนส่งน้ำมันมายังสถานีบริการ รวมถึงการให้บริการของสถานีบริการที่เติมน้ำมันแต่ละลิตรให้กับประชาชน

ส่วนค่าภาษีต่างๆ (30% – 40%) ได้แก่ ภาษีสรรพสามิต ภาษีเทศบาล และภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อนำมาใช้เป็นงบประมาณในการพัฒนาประเทศ และบำรุงท้องถิ่น โดยภาษีที่จัดเก็บ ได้แก่ ภาษีสรรพสามิต : จัดเก็บโดยกระทรวงการคลัง ตาม พ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิต นำมาใช้เพื่อพัฒนาประเทศ ,ภาษีเทศบาล : จัดเก็บโดยกระทรวงการคลัง ในอัตรา 10% ของภาษีสรรพสามิต ตาม พ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิต มาตรา 150 และจัดส่งให้กระทรวงมหาดไทยเพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาท้องถิ่น, ภาษีมูลค่าเพิ่ม : จัดเก็บ 7% ของราคาขายส่งน้ำมันเชื้อเพลิง และจัดเก็บอีกร้อยละ 7 ของค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงแต่ละชนิด และยังรวมถึงกองทุนต่างๆ (5% – 20%) เช่น กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เป็นต้น

ราคาน้ำมันทุกชนิดปรับตัวเพิ่มขึ้น
สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมันในวันนี้ เริ่มต้นจากน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์น้ำมันเบนซินในภูมิภาคฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะมาเลเซีย เนื่องจากได้ผ่อนปรนมาตรการกักตัวและเดินทางลง ส่งผลให้การท่องเที่ยวมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น

ส่วนราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณการส่งออกน้ำมันดีเซลจากจีนยังคงถูกจำกัด ท่ามกลางความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในภูมิภาคที่ปรับตัวสูงขึ้น

ทางด้านราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับขึ้น จากความกังวลที่ว่าสหรัฐและชาติตะวันตกอาจคว่ำบาตรรัสเซีย หากมีการโจมตียูเครน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันดิบจากรัสเซียที่มีกำลังการผลิตราว 11.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ โซเลนสกี แห่งยูเครน เผยว่าวันพุธที่ 16 ก.พ. อาจเป็นวันรุกรานของยูเครน แม้ว่ารัสเซียจะยังคงปฏิเสธข้อกล่าวหาก็ตาม

นักลงทุนต่างจับตาความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐและอิหร่าน ซึ่งหากสำเร็จอาจทำให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันดิบที่ 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน สู่ตลาดโลกได้อีกครั้ง

ทางด้านสำนักงานพลังงานสากล หรือ IEA เรียกร้องให้กลุ่มโอเปกพลัสเร่งเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบให้ถึงเป้าหมายที่ 4 แสนบาร์เรลต่อวัน หลังคาดการณ์ว่ากำลังการผลิตจริงอาจต่ำกว่าเป้าหมายราว 9 แสนบาร์เรลต่อวัน.