ปตท.เดินหน้าสร้างธุรกิจสร้างผลตอบแทนคืนสู่สังคม ด้วยการลงทุนในธุรกิจนวัตกรรมด้านพลังงาน

by ThaiQuote, 28 มีนาคม 2565

ปตท. ผู้นำด้านนวัตกรรมพลังงานแห่งอนาคต ได้เดินหน้าขับเคลื่อนการลงทุนในธุรกิจนวัตกรรมด้านพลังงาน เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ

 

เพื่อก้าวเข้าสู่โลกยุคใหม่ กลุ่ม ปตท. ได้ประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ที่เรียกว่า ‘Powering Life with Future Energy and Beyond ขับเคลื่อนทุกชีวิต ด้วยพลังแห่งอนาคต’ ซึ่งหมายถึง ปตท. ไม่เพียงเป็นฟันเฟืองสำคัญในธุรกิจพลังงานของประเทศ แต่ยังเป็นกำลังสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ด้วยการลงทุนในธุรกิจนวัตกรรมด้านพลังงาน เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. เผยถึงหลักการสำคัญของการดำเนินธุรกิจของ ปตท. ว่า ปตท. ยังคงยึดมั่นหลักการดำเนินธุรกิจตามภารกิจที่วางไว้ นั่นคือ การรักษาความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ และการขับเคลื่อนธุรกิจองค์กรในทุกมิติ

“จุดประสงค์ของการวางภารกิจเหล่านี้ เพื่อต้องการสร้างผลตอบแทนกลับคืนสู่ประเทศสูงสุด นำเสนอนวัตกรรมด้านพลังงาน เพื่อรองรับความต้องการใช้เชื้อเพลิงรูปแบบใหม่ ยกระดับสินค้าและบริการที่มีคุณภาพระดับสากล เพื่อมาตรฐานชีวิตที่ดีของคนไทย รวมถึงสนับสนุนอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศที่มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ”

ผนึกกำลังพันธมิตร มุ่งสู่ธุรกิจพลังงานแห่งอนาคต

‘พลังงานแห่งอนาคต’ ของกลุ่ม ปตท. คือ การลงทุนธุรกิจไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในต่างประเทศ ผ่านตัวแทนหลักอย่าง บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ด้วยเป้าหมาย 12 กิกะวัตต์ ใน พ.ศ. 2573 โดยเดินหน้าลงทุนธุรกิจนวัตกรรมด้านพลังงาน 5 กลุ่ม คือ

กลุ่มธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร โดยการจัดตั้ง บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (ARUN PLUS) พร้อมกันนี้ยังเป็นผู้จัดจำหน่ายและติดตั้งเครื่องอัดประจุไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ ออน-ไอออน (on–ion) ในทำเลศักยภาพ และยังมีการขยายสถานีสลับแบตเตอรี่สำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบบไม่ต้องชาร์จของ Swap & Go

กลุ่มธุรกิจฐานการผลิตอีวี (รถยนต์ไฟฟ้า) ในประเทศไทย โดยร่วมมือกับ ฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn) จัดตั้ง บริษัท ฮอริษอน พลัส จำกัด (HORIZON PLUS) เพื่อศึกษาการขยายตลาดและสร้างฐานการผลิต

กลุ่มธุรกิจเพื่อการลงทุนแบตเตอรี่ โดยร่วมลงทุนกับ GPSC จัดตั้ง บริษัท นูออโว พลัส จำกัด (NUOVO PLUS) เพื่อลงทุนด้านแบตเตอรี่ของกลุ่ม ปตท. และสนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันธุรกิจแบตเตอรี่ และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง

กลุ่มธุรกิจด้านดิจิทัล โดยจัดตั้ง บริษัท อีวี มี พลัส จำกัด (EVME PLUS) เพื่อเปิดให้บริการด้านดิจิทัลแพลตฟอร์ม ส่งเสริมและสร้างระบบนิเวศธุรกิจให้เกิดการใช้อีวีอย่างแพร่หลายภายในประเทศ อาทิ บริการให้เช่าอีวี บริการข้อมูลสถานีอัดประจุไฟฟ้า รวมถึงสถานีซ่อมบำรุงอีวี

กลุ่มธุรกิจพลังงานหมุนเวียน โดยจัดตั้ง บริษัท รีแอค จำกัด (ReAcc) เป็นสื่อกลางรองรับการซื้อขายใบรับรองพลังงานหมุนเวียน เพื่อช่วยสนับสนุนให้เกิดการผลิตและการใช้งานพลังงานหมุนเวียนขึ้นในประเทศ

ปรับโมเดลธุรกิจ เดินหน้าสร้างธุรกิจเพื่อชีวิตคนไทย

กลุ่ม ปตท. ไม่เพียงเดินหน้าสร้างธุรกิจแห่งอนาคตเท่านั้น แต่ยังมีการปรับโมเดลธุรกิจ สร้างธุรกิจใหม่ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยอีกด้วย ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีเข้ามาเสริมศักยภาพการเติบโตที่สูงขึ้นตามทิศทางของโลก ด้วยการเข้าสู่ธุรกิจวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต โดยมี บริษัท อินโนบิก (เอเชีย) จำกัด เป็นแกนหลักขับเคลื่อนธุรกิจ ด้วยเป้าหมายที่จะส่งเสริมสาธารณสุขของคนไทยให้มั่นคง

ตลอดเวลาที่มีการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 อินโนบิก ได้ร่วมนำเข้าและบริจาคยาเรมเดซิเวียร์ 12,000 ขวด และยาฟาวิพิราเวียร์ 1.2 ล้านเม็ด ให้ประเทศเพื่อดูแลประชาชน

นอกจากนี้ กลุ่ม ปตท. ยังมุ่งเข้าสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง ต่อยอดจากธุรกิจปิโตรเคมีด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง เสริมสร้างความแข็งแกร่งธุรกิจน้ำมันและไลฟ์สไตล์ รวมถึงเข้าสู่ธุรกิจโลจิสติกส์และโครงสร้างพื้นฐาน ระบบปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ และเทคโนโลยีดิจิทัล

ทั้งหมดนี้คือภาพสะท้อนของ กลุ่ม ปตท. ที่มุ่งมั่นทลายกรอบความสามารถที่มีอยู่เดิม ให้ก้าวสู่การแข่งขันในเวทีระดับโลกได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ทั้งธุรกิจปัจจุบัน และการมองหาโอกาสในธุรกิจใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพเพื่อผลตอบแทนที่ดีกลับคืนสู่ประเทศ ตลอดจนดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมอีกมากมาย ทั้ง สนับสนุนภาครัฐช่วยลดต้นทุนพลังงานให้ประชาชน สานต่อโครงการลมหายใจเดียวกัน ร่วมจัดตั้งหน่วยวัคซีนเคลื่อนที่และหน่วยคัดกรองโควิด และจัดตั้งโรงพยาบาลสนามครบวงจรอย่างต่อเนื่อง

ทุกย่างก้าวของกลุ่ม ปตท. ไม่เพียงเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยเหลือช่วยฟื้นคืนลมหายใจเศรษฐกิจของประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นอีกหนึ่งพลังที่คอยผลักดันและช่วยเหลือทุกภาคส่วนของสังคม ขับเคลื่อนประเทศร่วมฝ่าทุกวิกฤตและความสามารถการแข่งขันให้ทัดเทียมนานาชาติได้.