ปลัด สธ. กำชับเตรียมพร้อมรับสงกรานต์ ดูแลประชาชน เด็ก คนชรา ให้ปลอดภัย ลดความเสี่ยงโควิดในบุคลากร

by ThaiQuote, 6 เมษายน 2565

ปลัดสธ. กำชับสาธารณสุขทุกจังหวัด โรงพยาบาลทุกแห่ง เตรียมความพร้อมช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ เน้นลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ขณะเดียวกัน “โควิด" แพร่กลุ่มเด็กเล็กมากขึ้น แนะมาตรการป้องกันช่วงสงกรานต์

 

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กำชับสาธารณสุขทุกจังหวัด โรงพยาบาลทุกแห่ง เตรียมความพร้อมช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 เน้นลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ให้การช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุแบบ New Normal และใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ โดยเปิดศูนย์ EOC ประสานงานกับศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัด และเข้มงวดการบังคับใช้พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

 

  

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะผู้บริหาร ประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอ กับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและผู้อำนวยการโรงพยาบาลทั่วประเทศ ในการเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุขช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2565 ซึ่งจะมีการคุมเข้มระหว่างวันที่ 11–17 เมษายน 2565 เพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น

พร้อมไปกับการเตรียมมาตรการเพื่อป้องกันการแพร่และรับเชื้อโควิด 19 โดยเฉพาะในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเสี่ยงจากการให้บริการประชาชน โดยดำเนินการ 3 ส่วน ได้แก่ การลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนน, การช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุแบบ New Normal และการบริหารจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ

โดยสำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัด ให้เปิดศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุข (EOC) เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และดำเนินการตามมาตรการอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงสูง มีการวิเคราะห์ข้อมูลผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนเสนอต่อศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัด เพื่อกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งออกตรวจตราบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 อย่างเข้มงวด และหากเกิดอุบัติเหตุกับเด็กอายุไม่เกิน 20 ปีที่มีระดับแอลกอฮอล์เกินกว่า 20 mg% ให้ส่งข้อมูลศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัด ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็ก

สำหรับโรงพยาบาลทุกแห่ง ให้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในเลือดของผู้ขับขี่ที่ไม่สามารถตรวจโดยวิธีการเป่าลมหายใจได้ พร้อมทั้งรายงานข้อมูลในระบบทุกราย และเตรียมความพร้อมทีมปฏิบัติการทางการแพทย์เพื่อให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บหลังเกิดอุบัติเหตุ ภายใต้มาตรการความปลอดภัยและรูปแบบ New Normal เพื่อป้องกันการติดเชื้อในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งนี้ ให้พิจารณากำหนดค่าตอบแทนสำหรับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในช่วงเทศกาลสงกรานต์ไม่เกิน 2 เท่า ตามระเบียบของกระทรวงการคลัง

 

 

สธ. เผย "โควิด" แพร่กลุ่มเด็กเล็กมากขึ้น แนะมาตรการป้องกันช่วงสงกรานต์
นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โควิด 19 และคำแนะนำช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า สถานการณ์โควิด 19 ขณะนี้ ผู้ป่วยปอดอักเสบและใส่ท่อช่วยหายใจยังเพิ่มขึ้น แม้จะยังน้อยกว่าปี 2564 แต่การมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทำให้ผู้ป่วยปอดอักเสบและใส่ท่อช่วยหายใจมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นได้

นอกจากนี้ ขณะนี้ โรคโควิด 19 เริ่มแพร่ในกลุ่มเด็กเล็กเพิ่มขึ้น โดยเด็กอายุ 0-4 ปี ซึ่งยังไม่สามารถรับวัคซีนโควิด 19 ได้ ในระลอกโอมิครอนพบเสียชีวิตแล้ว 27 ราย ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว จึงขอให้ผู้ปกครองเฝ้าระวังและสังเกตอาการเด็กที่มีโรคประจำตัวอย่างใกล้ชิด หากมีอาการป่วยผิดปกติ หรือคนในบ้านเป็นผู้ป่วยโควิดหรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ต้องรีบพาเด็กที่เริ่มมีอาการป่วยไปพบแพทย์โดยเร็ว ทั้งนี้ พบว่ากลุ่มเด็กเล็กอายุ 0-6 เดือน มีความเสี่ยงที่ป่วยแล้วจะมีอาการรุนแรงและเสียชีวิตมากที่สุด ส่วนกลุ่มอายุ 5-12 ปี การเสียชีวิตค่อนข้างน้อย โดยเฉพาะระลอกโอมิครอนนี้มีเพียง 3 ราย หรืออัตราตายน้อยกว่า 0.01% ดังนั้น กลุ่มวัยเรียนอายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป การรับวัคซีนจะช่วยป้องกันการป่วยหนักได้อย่างดี

นพ.จักรรัฐกล่าวต่อว่า ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการระบาดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในส่วนของกลุ่มเสี่ยงที่ป่วยแล้วจะอาการหนัก 3 กลุ่ม คือ 1.ผู้สูงวัยที่ไม่ค่อยออกนอกบ้านหรือกลุ่มติดเตียง ส่วนใหญ่รับเชื้อจากผู้ดูแล ญาติในบ้าน ผู้ที่มาเยี่ยม 2.กลุ่ม 608 ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ส่วนใหญ่ติดเชื้อจากการไปสังสรรค์กับเพื่อน/คนรู้จัก การรวมกลุ่มทำกิจกรรม หรือไปสถานที่แออัด เช่น ตลาด ร้านอาหาร เป็นต้น และ 3.เด็กเล็กอายุน้อยกว่า 5 ปี จึงต้องย้ำกลุ่มเด็กวัยเรียนและวัยทำงานให้ระมัดระวังเพราะเป็นกลุ่มที่มีการติดเชื้อสูงและอาจนำไปแพร่ให้กับ 3 กลุ่มเสี่ยงนี้ได้ ส่วนสถานที่เสี่ยงและกิจกรรมเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดวงกว้าง คือ 1.การดื่มสุรา รับประทานอาหารร่วมกัน เนื่องจากไม่ได้สวมหน้ากาก โดยเฉพาะในสถานที่ปิด ระบายอากาศไม่ดี หรือรับประทานอาหารร่วมกันในบ้าน 2.การร่วมงานหรือกิจกรรมที่มีผู้คนแออัด มาตรการควบคุมโรครัดกุมไม่เพียงพอ และ 3.ขนส่งสาธารณะ รถโดยสารที่แออัด

สำหรับมาตรการป้องกันโควิดในช่วงสงกรานต์ แบ่งเป็น 4 ช่วง คือ 1.ก่อนร่วมงาน/ก่อนเดินทาง ขอให้ฉีดวัคซีนเพื่อลดการป่วยหนัก ผลตรวจ ATK เป็นลบก่อนไปร่วมงาน สวมหน้ากากอนามัยและสังเกตว่าสถานที่ที่ไปมีมาตรการป้องกันควบคุมโรคที่ดี เช่น เว้นระยะห่าง ลงทะเบียนล่วงหน้า หรือตรวจ ATK ก่อนเข้างาน เป็นต้น 2.ระหว่างเข้าร่วมงานสงกรานต์ สถานที่จัดงานส่วนใหญ่มักมีมาตรการควบคุมโรค ที่ห้ามตอนนี้คือประแป้ง ปาร์ตี้โฟม เพราะทำให้ใกล้ชิดมากเกินไป ขอให้หลีกเลี่ยงการดื่มสุราและรับประทานอาหารร่วมกัน เพราะมีความเสี่ยงสูง 3.กิจกรรมในครอบครัว เช่น รดน้ำดำหัว การรับประทานอาหารร่วมกัน ขอให้สวมหน้ากากมากที่สุดเท่าที่ทำได้ ระหว่างรับประทานอาหารเว้นระยะห่างให้มากขึ้น ใช้เวลาให้สั้นลง เพื่อลดความเสี่ยง และ 4.หลังกลับจากสงกรานต์ ให้สังเกตอาการตนเองช่วง 5-7 วันแรกก่อนกลับไปทำงาน งดพบปะผู้คนจำนวนมาก และตรวจ ATK สถานประกอบการควรพิจารณาให้พนักงาน Work From Home 5-7 วันก่อนกลับเข้าไปทำงาน เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาด.