อธิบดีกรมควบคุมโรคชี้คนไทยไม่ต้องตื่นโรคระบาด “ฝีดาษลิง” ย้ำไม่ติดกันง่าย ๆ เว้นแต่มีการสัมผัสทางร่างกายกับผู้ป่วย

by ThaiQuote, 22 กรกฎาคม 2565

อธิบดีกรมควบคุมโรคเตือนคนไทยไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษลิง เพราะจากสถิติที่ผ่านมายังไม่ระบาดรุนแรง แนะไม่ให้สัมผัสกับคนที่มีตุ่มอยู่บนผิวหนัง ดูแลตนเองหลักเดียวกับโควิด ล้างมือบ่อย ๆ กินอาหารร้อนปรุงสุก ด้านจังหวัดภูเก็ต รับผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงหลบหนี

 

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่าโรคฝีดาษลิงเป็นโรคระบาดที่ต้องเฝ้าระวัง ตามมาตรการขององค์การอนามัยโลก ดังนั้นคณะกรรมการโรคติดต่อส่วนต่าง ๆ ทั้งในระดับกลาง ส่วนภูมิภาค ตลอดจนกรุงเทพมหานครต้องเฝ้าระวังสถานการณ์และเหตุที่ต้องสงสัยในการเกิดโรค

นายแพทย์โอภาสกล่าวว่า ทางภูเก็ตก็ได้รับรายงานจากโรงพยาบาลมีชายไนจีเรียอายุ 27 ปีต้องสงสัยว่าเป็นฝีดาษลิง ตรวจห้องทดลอง 2 แห่งตรงกัน พร้อมกันนี้ต่อไปสู่ขึ้นตอนสืบสวนควบคุมโรค หาผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 2 ราย เป็นเพื่อนของผู้ป่วย แต่จากตรวจยังไม่พบโรค แต่ต้องสังเกตอาการอีก 21 วัน และมีการตรวจสถานบันเทิงพบ 6 ราย ยังไม่เห็นเป็นฝีดาษลิง จึงให้สังเกตอาการอีก 21 วัน และได้รายงานผู้ป่วยรายนี้ให้กับ WHO ทราบเป็นที่เรียบร้อย

นอกจากนี้ทางทีมได้มีการสอบสวนห้องพักผู้ป่วย และฆ่าเชื้อในห้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในเบื้องต้นอนามัยโลกยังไม่มีการประกาศเป็นโรคระบาดความเสี่ยงสูง จากข้อมูลความรุนแรงไม่มาก และการระบาดก็ไม่รุนแรง มีการกระจายตัวมากกว่า 60 ประเทศ มีพบผู้ป่วยประมาณ 12,000 ราย อัตราการเพิ่มไม่มากนัก ในเอเชียมี สิงคโปร์ ไต้หวัน อินเดีย

ขอให้ประชาชนรับทราบว่าไม่มีความรุนแรงสูงมากนัก โรคนี้ไม่ได้ติดง่าย ๆ ติดได้จากการสัมผัสผู้ป่วย หรือผู้มีตุ่ม โรคนี้มีระยะดำเนินการของโรคไม่นาน มีระยะการฝักตัว 8 วัน และต้องกักตัวเพื่อการรักษาประมาณ 3 สัปดาห์ โรคนี้รักษาตามอาการ ไม่มียารักษาโดยตรง วัคซีนที่ผลิตมาเตรียมจะใช้มีอยู่หลายตัว ตอนนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนป้องกัน เพราะเป็นวัคซีนที่มีผลข้างเคียงบ้าง แต่สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ในห้องทดลองที่ต้องตรวจสอบ จึงจำเป็นต้องฉีดวัคซีน

ถ้าประชาชนรายใดมีตุ่มต้องสงสัยให้ไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัย มาตรการที่ดำเนินการด้านโควิดยังสามารถป้องกันได้ ดูแลเรื่องความสะอาด ล้างมือบ่อย ๆ รับประทานอาหารร้อน หากมีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02 5903839 หรือ 1422

จ.ภูเก็ต รับผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงหลบหนี

สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต แถลงยอมรับว่าผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงที่พบรายแรกในประเทศไทยได้หลบหนีออกจากโรงพยาบาล ไม่ได้อยู่ในการควบคุมของทางการ แต่ขอให้ประชาชนอย่างตื่นตระหนก เพราะการติดต่อกันค่อนข้างยาก และสายพันธุ์ที่พบไม่ได้มีอาการุนแรง นอกจากนั้น จากการตรวจหาเชื้อในผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในขณะนี้ยังไม่พบรายใดติดเชื้อ

ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามผู้ป่วยชาวต่างชาติติดเชื้อฝีดาษลิงรายดังกล่าว เพราะมีการหลบหนีจากสถานรักษาพยาบาล โดยในวันนี้จะเผยแพร่รูปหน้าของผู้หลบหนี ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่แย่มาก ยืนยันว่ามีบทลงโทษและใช้กฎหมายทุกอย่างที่มี โดยเฉพาะพ.ร.บ.โรคติดต่อ เพื่อดำเนินคดี และอาจเนรเทศออกจากประเทศ

"จากที่อธิบดีกรมควบคุมโรครายงานเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ทราบว่าได้มีการติดตามคนสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยรายดังกล่าวมากักตัวและตรวจเช็คแล้วไม่พบการติดเชื้อ และย้ำตามที่อธิบดีกรมควบคุมโรคระบุว่าไม่ได้ติดง่ายๆ แต่ต้องเฝ้าระวังส่วนในด้านการแพทย์ ขอไม่พูดเพราะเป็นเรื่องเฉพาะทางให้แพทย์เป็นคนพูด แต่หลังจากรับทราบก็ได้กำชับเร่งดำเนินการตามจับกุมตัวให้เร็วที่สุด"

ด้านพล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เปิดเผย ผู้ป่วยชาวไนจีเรียที่ติดเชื้อฝีดาษลิงออกจากรพ. ในช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ค. โดยมีประวัติเข้า-ออก คอนโดฯ ที่พัก แต่ต่อมาจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบผู้ป่วยนั่งรถแท็กซี่ออกจากคอนโดฯ ที่พักไปโดยไม่ทราบจุดหมาย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ไทยพบฝีดาษลิงรายแรกแล้ว ศึกษาโรคนี้มีอาการอย่างไร ติดต่อทางไหนได้บ้าง
https://www.thaiquote.org/content/247628