‘พีทีที สเตชั่น แฟลกชิป’ วิภาฯ62 Ecosystem ครบทุกไลฟ์สไตล์ยั่งยืน

by ESGuniverse, 13 ธันวาคม 2566

OR เปิด ‘พีทีที สเตชั่น แฟลกชิป วิภาวดี 62’ ต้นแบบหลอมรวม Ecosystem ชุมชนคู่ธุรกิจยั่งยืน ผนึกพลัง สร้างสรรค์ไลฟ์สไตล์สีเขียว ตอบโจทย์ห่วงโซ่คุณค่า โดยเปิดโอกาส SMEs เล็กเติบโต, ผสานหลากหลายบริการ ตอบโจทย์ธุรกิจสีเขียว ออกแบบเทคโนโลยีAI ตรวจจับวัดรอยคาร์บอนจากรถ วัดค่าจนถึงผู้ใช้ สอดคล้องSDGs

 

 

นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR พร้อมด้วย นายพิมาน พูลศรี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน OR เป็นประธานในพิธีเปิดสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น แฟลกชิป วิภาวดี 62 (PTT Station Flagship วิภาวดี 62) ซึ่งเป็นต้นแบบสถานีบริการที่จะสะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดในการดำเนินธุรกิจของ OR ที่พร้อมสร้างโอกาสให้ผู้คน ชุมชน สิ่งแวดล้อม เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ตามแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals- SDG) ในแบบของ OR ในทุกมิติ ทั้งการใช้พื้นที่สร้างส่วนร่วมกับชุมชน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้คน ชุมชน ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีจัดการสถานีบริการให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม


นายดิษทัต เปิดเผยถึงที่มาของการพลิกโฉม พีทีที สเตชั่น ต้นแบบแฟลกชิป (Flagship) ที่สมบูรณ์แบบที่สุดของ OR ซึ่งผสมผสานแนวคิดการบริการจัดการแบบ SDG เพื่อมุ่งไปสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน จึงต้องหลอมรวมระบบนิเวศของ OR (OR Ecosystem) ในธุรกิจของ OR และสร้างพันธมิตรได้อย่างครบวงจร เพื่อเป็นต้นแบบของการสถานีน้ำมันรวบรวมการบริการไลฟสไตล์ตอบโจทย์สังคมและธุรกิจสีเขียว ที่จะขยายในอนาคต

สำหรับ แนวคิดการบริการจัดการตามหลักการ SDG ตามแบบฉบันของ OR ที่สร้างประสบการร์ในสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น แฟลกชิป วิภาวดี 62 แห่งนี้ มีองค์ประกอบ3 ด้าน ดังนี้

“S” หรือ “SMALL”
มุ่งเน้นการให้โอกาสเพื่อคนตัวเล็ก โดยมีร้านไทยเด็ดต้นแบบ ที่สนับสนุนสินค้าชุมชนจากทั่วประเทศ ร้านภัทรพัฒน์ ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ของมูลนิธิชัยพัฒนา และ “Common Space” หรือพื้นที่เพื่อสนับสนุนกิจกรรมของชุมชนเพื่อให้ชุมชนมีรายได้อย่างยั่งยืน

“D” หรือ “DIVERSIFIED”
มุ่งเน้นการสร้างโอกาสเพื่อการเติบโตธุรกิจหลากหลายรูปแบบผ่านแฟลตฟอร์มต่าง ๆ ของ OR ที่มีศักยภาพ โดยสถานีบริการแห่งนี้มีร้านค้าจากแบรนด์ต่าง ๆ ทั้งในเครือ OR และพันธมิตร เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็น คาเฟ่ อเมซอน เท็กซัส ชิคเก้น พาคามาร่า และโอ้กะจู๋ เป็นต้น
“G” หรือ “GREEN”
มุ่งเน้นการสร้างธุรกิจสีเขียว หรือ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ (Healthy Environment) โดย OR ได้นำเทคโนโลยีเข้ามาบริหารจัดการสถานีบริการแห่งนี้ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงสร้างการมีส่วนร่วมให้กับผู้คนชุมชนร่วมดูแลสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน เพื่อตอบตอบโจทย์เป้าหมาย ของ OR ด้านการลดคาร์บอน ทำให้ปริมาณการปล่อยคาร์บอน (CO2) เข้าสู่ชั้นบรรยากาศเท่ากับปริมาณคาร์บอนที่ถูกดูดซับกลับคืน หรือ เรียกว่า เป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) จึงต้องบริหารจัดการการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน อย่างครอบคลุมโครงสร้างภายในสถานี ได้แก่
-การออกแบบอาคารสอดแทรกพื้นที่ธรรมชาติ ในรูปแบบ Green Station
-การติดตั้ง Solar Rooftop เพื่อใช้ภายในสถานีบริการและร้านค้าที่ OR ดำเนินการ
-ติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานผ่านแบตเตอรี่ (G-Box) จากกลุ่มบริษัทในเครือ NUOVO PLUS เพื่อจัดการการใช้พลังงานไฟฟ้าให้เกิดประโยชน์สูงสุด
-การนำเทคโนโลยี AI-CCTV for Customer Carbon ที่สามารถตรวจจับระยะเคลื่อนรถ และยี่ห้อรถ เพื่อคำนวณก๊าซ CO2 ที่เกิดขึ้นของผู้บริโภคที่ภายในสถานีบริการได้

นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นการใช้ผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ร้านคาเฟ่ อเมซอน ใช้แก้วร้อนที่เป็นเป็น Bio degradable และการนำวัสดุเหลือใช้มาผลิตเป็นสินค้า (Upcycling Products) ได้แก่ เสื้อและผ้ากันเปื้อนของพนักงาน รวมไปถึงวัสดุตกแต่งร้าน เป็นต้น เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้คนและชุมชน ให้เติบโตไปด้วยกันอย่างแท้จริง

  

 

นายพิมาน เปิดเผยว่า พีทีที สเตชั่น แฟลกชิป วิภาวดี 62 มีจุดเด่นที่มีสินค้าและบริการหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของทุกคนอย่างครบครัน บนพื้นที่ค้าปลีกขนาดใหญ่กว่า 5,000 ตารางเมตร ประกอบด้วยร้านอาหารแบรนด์ต่าง ๆ และสินค้าบริการเพื่อรองรับทุกความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นร้าน คาเฟ่ อเมซอน คอนเซ็ปต์ สโตร์ (Café Amazon Concept Store) ซึ่งเป็นร้านคาเฟ่ อเมซอน รูปแบบพิเศษ “Coffee X People” ที่ออกแบบเพื่อการใช้งานที่หลากหลายของผู้บริโภคที่มานั่งในร้าน โดยมี Specialty Bar สำหรับผู้สนใจกาแฟ รวมทั้งมีพื้นที่สำหรับครอบครัว และพื้นที่ Co-Working Space รวมทั้งมีเมนูพิเศษที่มีเฉพาะที่สาขานี้เท่านั้น

นอกจากนี้ ยังมีร้านค้าแบรนด์ใหม่ ๆ พร้อมเมนูพิเศษให้เลือกหลากหลาย เช่น ร้านกาแฟพาคามาร่า (Pacamara) ซึ่งเป็นสาขาแรกที่เปิดให้บริการในสถานีบริการ และเป็นสาขาแรกที่เสิร์ฟเมนูอาหารและเบเกอรี่ รวมไปถึง ร้านโอ้กะจู๋ ซึ่งเป็นสาขาที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ 2 ชั้น รองรับลูกค้าได้กว่า 180 คน พร้อมให้บริการทั้งแบบ Drive Thru, Dine-In, Takeaway และ Delivery และยังมีเมนูพิเศษที่มากกว่าสาขาอื่น อีกด้วย

อีกด้านหนึ่ง พีทีที สเตชั่น แฟลกชิป วิภาวดี 62 ยังเน้นเรื่องการให้บริการน้ำมันและพลังงาน ซึ่งเป็นความโดดเด่นของ พีทีที สเตชั่น มาโดยตลอด ตอบโจทย์การใช้พลังงานทุกรูปแบบ เพื่อรถทุกคัน ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์น้ำมันคุณภาพที่มีให้บริการอย่างครบครัน ทั้งเกรดพรีเมียม (Super Power) และเกรดมาตรฐาน (Xtra Save) และจุดชาร์จ EV Centralized Charger ที่สามารถให้บริการได้ 6 หัวชาร์จพร้อมกัน รองรับการชาร์จไฟสูงสุด 180 Kw อีกทั้งยังมีโชว์รูมรถ BYD ตามแนวโน้มความต้องการรถไฟฟ้า (EV) ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก

OR มีความตั้งใจให้ พีทีที สเตชั่น แฟลกชิป วิภาวดี 62 แห่งนี้เป็นพื้นที่แห่งความสุขที่จะเติมเต็มความสุขให้ทุกคนได้มากกว่าเดิม เพื่อตอกย้ำแนวคิด “Living Community” ที่ต้องการให้สถานีบริการ พีทีที สเตชั่น เป็นศูนย์กลางในการเติมเต็มทุกความสุขและเติบโตไปพร้อมกับชุมชนอย่างยั่งยืน และ OR จะยังคงมุ่งมั่นการพัฒนาต้นแบบสถานีบริการรูปแบบใหม่ เพื่อตอบโจทย์ความทุกความต้องการของผู้บริโภค เพื่อให้ พีทีที สเตชั่น เป็นสถานีที่เติมเต็มความสุขให้ทุกคนตลอดไป