เทรนด์แฟชั่น 2024 ‘Fast Fashion’ ไม่ใช่แก่นแต่งตัว นิยามใหม่ เสื้อผ้าขับจิตสำนึกดีงามจากภายใน

by วันทนา อรรถสถาวร , 18 มกราคม 2567

นิยามความงามความเป็นแฟชั่นที่ถูกท้าทายด้วยจิตสำนึกของการบริโภคโดยการตระหนักรู้ รับผิดชอบต่อสังคม และโลกใบนี้ ซื้อสวมใส่สร้างสไตล์แฟชั่นในแต่ละครั้งจึงนำเสนอความหมายที่มากกว่าความงามที่ฉาบบนผืนผ้า คุณใส่อะไรไม่สำคัญเท่า ใครคือคนใส่

 

 

ผูู้บริโภคยุคใหม่ ร่วมค้นหาความหมายของความสวยงาม ในมิติที่แตกต่างกันไปจากอดีต ในยุคที่อุตสาหกรรมเสื้อผ้าถูกตั้งคำถามเป็นกลุ่มที่ปล่อยมลพิษก๊าซเรือนกระจก (Emission)สูงอันดับ 2 รองจากการเดินทางโดยอากาศ ความสวยงามที่ถูกกระตุ้นการบริโภคเกินความต้องการ ด้วยราคา ความสวยงามเปลี่ยนไปไม่ซ้ำ ทำให้คนซื้อเสื้อผ้าใหม่ ทั้งที่ใส่ได้เพียงไม่กี่ครั้ง โรงงานก็ผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการจนเกินพอดี ยังไม่รวมถึงกระบวนการผลิตที่ต้องใช้พลังงาน น้ำสารเคมี โดยเฉพาะโรงงานที่ย้ายฐานไปแสวงหาต้นทุนราคาถูกในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา กฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมจึงยังไม่เข้มข้น ที่สำคัญ เสื้อผ้าเหล่านี้เมื่อไม่ได้ใช้ถูกนำไปทิ้งลงถังขยะ โดยรวมปล่อยคาร์บอนถึง 1.2 พันล้านตันต่อปี ทั้งที่หลายชิ้นที่ลงถังขยะสามารถนำมารีไซเคิลได้


วิถีการบริโภคแฟชั่นด่วนผลิต ด่วนใส่ ด่วนทิ้งถูกตั้งคำถามมากขึ้น เทรนด์แฟชั่นในปี 2024 จึงเป็นยุคแห่งการมองวงการแฟชั่นเสื้อผ้า คือตัวแทนที่แสดงออกถึงอัตลักษณ์แสดงออกความเป็นตัวตน และการสร้างจิตสำนึกของการเป็นผู้บริโภคที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม และโลกที่เราอาศัย

นี่คือโจทย์ใหญ่ของวงการอุตสาหกรรมแฟชั่นที่จะไม่ใช่เพียงผลิต สร้างคอลเล็คชั่นใหม่ๆ กระตุ้นการซื้ออีกต่อไป

ทิศทางที่สะท้อนนิยามการออกแบบแฟชั่นในปี 2024 มีแนวโน้มให้ความสนใจกับการสวมใส่ที่สะดวกสบาย เรียบง่าย และเน้นความยั่งยืนเป็นหลัก โดยแนวคิดมีดังนี้ คือ

1.ความงามอย่างมีสไตล์ มีความเป็นกลาง ไม่จำกัดเพศ เรียบง่าย เหนือกาลเวลา

แนวคิดดีไซเนอร์ชั้นนำ จะมุ่งเน้นการนำเสนอความเป็นกลางที่ชัดเจน ไม่ตกยุค มีรูปทรงที่เข้าได้กับทุกความต้องการ เน้นความเรียบง่ายและความสง่างาม ตอกย้ำแนวคิดที่ว่าแฟชั่นสามารถแสดงออกถึงสไตล์ที่มีเอกลักษณ์ส่วนบุคคล ตอบสนองบุคลิกที่แตกต่างเฉพาะตัว


2. มุ่งเน้นการสวมใส่ที่สบาย เรียบหรู แต่ก็ยังดูดี ใช้งานได้จริง

ผู้หญิงยุคนี้ เน้นความคล่องตัวในการทำงาน หรือกิจกรรมต่าง ๆ จึงเน้นการสวมใส่ที่มีความสบาย ผ้านุ่มและยืดหยุ่น พร้อมรับทุกการเคลื่อนไหว หยิบมาใส่ได้เลยโดยไม่ต้องใช้เวลาแต่งตัวยาวนาน แต่ยังคงความหรู ในความเรียบง่าย เข้าได้กับทุกโอกาส วัสดุธรรมชาติ เช่น ลายพิมพ์ธรรมชาติ จะได้รับความนิยม

3.ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับแฟชั่นยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

แบรนด์ที่มีหลักการผลิตที่รับผิดชอบคำนึงถึงจริยธรรม รับผิดชอบต่อกระบวนการผลิตสินค้า เช่น การใช้วัสดุรีไซเคิล และนำเสนอผ้าออร์แกนิกเรียนรู้วิธีการตัดสินใจซื้ออย่างมีความรับผิดชอบ มีการนำแฟชั่นที่ยั่งยืนมาผสมผสานเข้ากับสไตล์ของตัวเอง

4. น้อยแต่มาก เหนือกาลเวลา ไม่ตกยุค (Minimalist and timeless)

มินิมอลและไม่ตกยุค เหนือกาลเวลา เป็นที่ยอมรับในโลกแฟชั่น ตั้งใจให้คนหันกลับมาสำรวจในตู้เสื้อผ้า ที่มีอะไรยังใช้งานได้อยู่ สามารถหยิบจับมามิกซ์แอนด์แมชใส่ให้เข้ากับโอกาส นี่ต่างหากที่เป็นความงามที่แท้จริงในการเป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์ ผสมผสานสไตล์การแต่งตัวโดยนำสิ่งที่มีมาจับคู่ให้เข้ากัน ถือเป็นแก่นแท้ของความงาม ไม่ได้อยู่ที่เสื้อผ้า หรือสิ่งที่ใส่ แต่อยู่ที่ ใครคือคนใส่


5. เทรนด์ของลายผ้าเน้นภาพพิมพ์พันธุ์พืชลายธรรมชาติ

เพราะธรรมชาติ ยังเป็นความงามที่หลากหลาย แก่นแท้ และจับต้องได้ ในยุคคนเมือง จึงกลับมาโหยหาธรรมชาติ แทรกซึมอยู่ในผืนผ้าที่สวมใส่ ได้ดื่มด่ำความงาม สบายตา ลวดลายดอกไม้ใบหญ้า สามารถเพิ่มความสดชื่นและความมีชีวิตชีวาให้กับเสื้อผ้า ได้อย่างกลมกลืนและน่าดึงดูด

6. เครื่องประดับที่ยั่งยืนและมีความรับผิดชอบ

เครื่องประดับและอุปกรณ์เสริมประจำตัว เช่น กระเป๋า เข็มขัด คนยุคใหม่จะถามหาสิ่งที่นำมาใช้จะต้องมาจากการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น การรีไซเคิล วัสดุธรรมชาติ เช่น กระเป๋าหนังวีแกน หนังจากพืช แว่นกันแดดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

 

 

 

การวิจัยการสร้างความตระหนักรู้เรื่องความยั่งยืนกับแฟชั่นมาแรง

การศึกษาวิจัยลูกค้าของ SHEIN แบรนด์เสื้อแฟชั่นรายใหญ่ของโลก เผยให้เห็นถึงแนวทางปฏิบัติด้านแฟชั่นแบบหมุนเวียนที่เพิ่มมากขึ้น ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับการหมุนเวียนเสื้อผ้าที่ใช้แล้วนำกลับมาใช้ใหม่

การศึกษาล่าสุดที่จัดทำโดย SHEIN ร่วมกับ Alchemer เจาะลึกพฤติกรรมด้านแฟชั่นและทัศนคติด้านความยั่งยืนของฐานลูกค้า การวิจัยครั้งนี้ได้ทำการสำรวจผู้คนมากกว่า 3,500 รายทั่วสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก บราซิล สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และเยอรมนี โดยให้ความกระจ่างในข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญ 5 ประการเกี่ยวกับความเข้าใจ และการมีส่วนร่วมของลูกค้า SHEIN ในเรื่องวัฎจักรแห่งวงการแฟชั่น

1.ความปรารถนาอันแรงกล้าต่อการเข้าสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน

ในการศึกษาเผยให้เห็นถึงความกระตือรือร้นที่ชัดเจนของลูกค้า SHEIN ที่ต้องการนำแนวปฏิบัติแบบหมุนเวียนมาใช้ในชีวิตของพวกเขา การบริจาคเสื้อผ้าที่ไม่ได้ใช้และการขายต่อทางออนไลน์แบบ peer-to-peer กลายเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดที่ผู้เข้าร่วมมีส่วนร่วมในระบบนิเวศแฟชั่นแบบหมุนเวียน ที่น่าสนใจคือความสนใจในกิจกรรมหมุนเวียนต่าง ๆ เพิ่มขึ้น โดยลูกค้าแสดงความเต็มใจที่จะเพิ่มการมีส่วนร่วมในปีนี้

2.ความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศ

แม้ว่าการส่งต่อสินค้าให้เพื่อนและครอบครัวเป็นเรื่องปกติในสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก และเยอรมนี แต่แพลตฟอร์มการขายต่อออนไลน์ก็มีอิทธิพลในฝรั่งเศส โดย 75% ของลูกค้า SHEIN ในภูมิภาคนั้นเลือกใช้วิธีนี้ แนวทางที่หลากหลายเหล่านี้ให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าสำหรับ SHEIN เพื่อปรับแต่งโครงการริเริ่มด้านหมุนเวียนในลักษณะที่สอดคล้องกับกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน

3.เสื้อผ้ามือสองเข้ามาเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมแฟชั่นสู่ความเป็นเศรษฐกิจหมุนเวียน

แม้ว่าแรงจูงใจในการขายสินค้าที่ใช้แล้วจะแตกต่างกันไปตามข้อมูลประชากรและสถานที่ตั้ง การสร้างรายได้ยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในทุกกลุ่ม แต่ผลวิจัยพบว่า เกือบครึ่งหนึ่งในบราซิล สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และเยอรมนี มีแรงผลักดันจากความมุ่งมั่นต่อความยั่งยืนสู่แฟชั่นแบบหมุนเวียน สะท้อนถึงความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น

4.ความเข้าใจเกี่ยวกับการสวมใส่เสื้อผ้าซ้ำ

ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าลูกค้า SHEIN สวมเสื้อผ้าบ่อยครั้ง ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่รายงานว่าสวมใส่สินค้า SHEIN มากกว่า 10 ครั้ง โดยหนึ่งในสามสวมใส่เกิน 30 ครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลูกค้าที่อายุน้อยกว่า (อายุ 18-29 ปี) มักจะได้รับประโยชน์จากเสื้อผ้า SHEIN มากกว่าเมื่อเทียบกับลูกค้าที่มีอายุมากกว่า 29 ปี

5.ความเข้าใจเรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียนยังมีจำกัด

แม้หลายคนในสายแฟชั่นจะเคยได้ยินคำนี้มาก่อนก็ตาม วงการแฟชั่นจึงต้องมีหน้าที่นำการตระหนักรู้ผ่านโครงการการศึกษา สร้างองค์ความรู้และการแก้ไขปัญหาโลกร้อน เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการสร้างความเปลี่ยนผ่านไปสู่ “แฟชั่นหมุนเวียน”

โดยรวมแล้ว การศึกษาเรื่อง Circularity ของ SHEIN ปี 2023 แสดงให้เห็นภาพที่มีแนวโน้มว่าความสนใจของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นในแนวปฏิบัติแบบหมุนเวียน ด้วยการยอมรับความต้องการและความชอบของลูกค้า SHEIN จึงสามารถส่งเสริมอนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้นสำหรับอุตสาหกรรมแฟชั่นได้

ที่มา:
-Tashy Fernández Marketing, Sales, Sustainability, Promotions, Beauty and Fashion
-https://esgnews.com/shein-customer-study-reveals-growing-embrace-of-circular-fashion-practices/