MQDC แลกเปลี่ยนความรู้ MIT Framework หาคำตอบนวัตกรรม ชีวิตดี มีสุขยั่งยืน

by ESGuniverse, 25 มกราคม 2567

MQDC ร่วมมือ MIT แลกเปลี่ยนเรียนรู้ สร้างองค์ความรู้ เทคโนโลยีนวัตกรรม และปัญญาประดิษฐ์ เพื่อชีวิตดีมีสุข ไม่เบียดเบียนโลก เพิ่มพลังธรรมชาติคู่กับลดระดับคาร์บอน (Nature Positive Carbon Negative)

 

 

แนวคิดการสร้างพลังบวกให้กับธรรมชาติ (Nature Positive) เป็นคำตอบของการขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อชีวิตในยุคถัดไป ซึ่งถือเป็นเป็นแนวคิดใหม่การฟื้นฟูธรรมชาติแบบกลับมุมคิดที่แตกต่างจากเดิม เพื่อต้องการสร้างภูมิคุ้มกันใหม่ให้กับโลก มีความพร้อมปรับตัวฟื้นฟูธรรมชาติ มีความยืดหยุ่นไปพร้อมกับความแข็งแกร่ง ทนทานรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในทุกสภาวะ เป็นการสร้างปรัชญาการดำเนินธุรกิจใหม่ ที่จะส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจที่มีสุขภาวะที่ดีกับทุกชีวิตที่เกี่ยวข้อง จากการฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ ทำเกษตร ปศุสัตว์ หรือประมง โดยที่ไม่รุกล้ำผืนป่า จึงสร้างสังคมที่มีเสถียรภาพยั่งยืน

แนวคิดนี้ขับเคลื่อนไปพร้อมกันกับการทำให้คาร์บอนติดลบ (Carbon Negative) คือการขับเคลื่อนธุรกิจที่ไม่ส่งผลกระทบต่อโลก ไม่ปล่อยมลพิษจากการผลิต การขนส่ง การนำก๊าซธรรมชาติ หรือ ฟอสซิลมาใช้ โดยที่มีการบริหารจัดการไม่ปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศ

ถือว่าเป็นแนวคิดการขับเคลื่อนธุรกิจที่สมดุลในการทำให้ชีวิตมนุษยชาติ ดำรงอยู่ได้ท่ามกลางสิ่งแวลด้อมที่ดี เกื้อกูลระหว่างกันและกัน

บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC ) จึงร่วมสนับสนุนและนำเสนอองค์ความรู้ในงานสัมมนา MIT Industrial Liaison Program โดย MIT ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศสหรัฐอเมริกา มีหน่วยงานด้านวิจัยชั้นนำของโลกในด้านวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม การออกแบบ และศิลปะ ในงาน “2024 MIT Bangkok Symposium: Technologies and Policies for a Sustainable World”

วางกรอบวิจัยชีวิตอยู่ดีมีสุข
เกื้อกูลธรรมชาติ

รศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต หัวหน้าคณะที่ปรึกษาศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC by MQDC) ตัวแทนจาก MQDC ผู้ร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนแนวคิด ให้มุมมองว่า สิ่งที่ MQDC ร่วมมือผลักดัน สอดคล้องกับทิศทางเดียวกันกับ MIT Industrial Liason Program (ILP) ซึ่งมีเป้าหมายในการพัฒนาและวิจัยต่อการแก้ไขปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง (Climate Change) เพื่อบรรลุการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยการลดการใช้คาร์บอน (Decarbonization)จากเชื้อเพลิงฟอสซิลจนเหลือศูนย์ (Net Zero)

ทั้งนี้ ได้วางเป้าหมายในการเพิ่มพลังงานจากธรรมชาติ และลดการปล่อยคาร์บอน “Nature Positive Carbon Negative 2050” พร้อมกันกับการวางกรอบการทำงานให้มีการปรับตัวยืดหยุ่นพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง (Resilience Framework) ซึ่งเป็นทิศทางการทำงานของ MQDC

 

 

 

“ผมรู้สึกยินดีที่สถาบันระดับโลกอย่าง MIT มองเห็นศักยภาพของ MQDC ที่มีองค์ความรู้เรื่องของการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนในทุกๆ ด้านอย่างต่อเนื่อง และเลือกให้ MQDC เป็นหนึ่งในผู้ที่มาถ่ายทอดประสบการณ์ ซึ่งเรื่องสำคัญๆ อย่าง Nature Positive Carbon Negative 2050 หรือ Resilience Framework ซี่งเป็นเรื่องที่เรามุ่งเน้นมาตลอดในฐานะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใส่ใจต่อความยั่งยืนอย่างแท้จริง และชูเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพ Biodiversity ในทุกโครงการ” รศ. ดร. สิงห์ กล่าวเสริม

เจาะ “นวัตกรรม” สร้างโลกยั่งยืน

ในงานสัมมนาระดับโลกครั้งนี้เน้นเรื่องของเทคโนโลยี นวัตกรรม รวมไปถึงการพัฒนาด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อนำมาร่วมพัฒนาเรื่องการลดจำนวนการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และ สร้างความยั่งยืน นำโดย ศาสตราจารย์ John E. Fernandez จาก MIT Environmental Solutions Initiative (ESI) ในหัวข้อ Getting to Net Zero โดย MIT ILP ที่เลือกประเทศไทยเป็นศูนย์กลางภูมิภาคอาเซียน เน้นไปที่เรื่องการจับตามองการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่จะเป็นปัญหาในอนาคตอย่างใกล้ชิด การพัฒนาและวิจัยต่อเนื่องเพื่อบรรลุการกำจัดคาร์บอนจากเชื้อเพลิงฟอสซิลจนเหลือศูนย์ (Decarbonization) อย่างยั่งยืน การลงมืออย่างเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity Loss) การพัฒนาเทคโนโลยีและนโยบายรัฐให้เป็นหนึ่งเดียวเพื่อรับมือปัญหาอย่างทันท่วงที

สำหรับวิสัยทัศน์การพัฒนาของ บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) เป็นบริษัทที่มีจุดมุ่งหมายดำเนินธุรกิจเพื่อการพัฒนาและการลงทุน ด้านการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วย บ้าน คอนโดมิเนียม โครงการคอมมูนิตี้ ดิสทริค และ ธีมโปรเจกต์ รวมถึงธุรกิจค้าปลีกและโรงแรม พร้อมดำเนินธุรกิจภายใต้คำมั่นสัญญาเพื่อทุกคนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ‘For All Well-Being’

ในด้านความยั่งยืน มุ่งเน้นการประยุกต์ปรัชญา ‘นวัตกรรมแห่งความยั่งยืน’ MQDC มุ่งมั่นที่จะนำพาภาคธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไปสู่ความยั่งยืน ดังนั้น MQDC ได้ให้การสนับสนุนงานด้านการวิจัยและนวัตกรรม โดยได้จัดตั้งศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) ซึ่งเป็นศูนย์การวิจัยแห่งแรกของเอเชียที่มุ่งเน้นด้านการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของสรรพสิ่งบนโลก พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์วิจัยอนาคตศึกษาฟิวเจอร์เทลส์ แล็บ ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยเอกชนแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียนที่ทำการศึกษา วิเคราะห์ และรวบรวมข้อมูลที่สำคัญต่ออนาคต เพื่อสร้างอนาคตที่ดีให้กับมนุษยชาติ

MQDC ดำเนินงานพร้อมกับการคำนึงถึงสิ่งมีชีวิตบนโลก มากกว่านั้นยังมีเป้าหมายในการพัฒนาความยั่งยืนเพื่อสังคมโดยรวม

สำหรับศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) โดย บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) คือศูนย์นวัตกรรมชั้นนำด้านความยั่งยืน ตั้งอยู่ที่กรุงเทพมหานคร มีพื้นที่ทั้งหมด 990 ตารางเมตร แบ่งออกเป็น 8 โซน มีการติดตั้งระบบอัจฉริยะ (Intelligent System) ตรวจจับการใช้พลังงานและตรวจจับคุณภาพอากาศ (IAQ) และควบคุมในทุกพื้นที่ เพื่อสุขภาวะที่ดีของผู้ใช้งาน

นอกจากนี้ RISC by MQDC เป็นสำนักงานที่ได้รับรองมาตรฐาน WELL แห่งแรกในประเทศไทย และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเภทโครงการ New & Existing Interiors ในระดับ “Gold” ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับโลกจาก International WELL Building Institute (IWBI) สถาบันที่กำหนดมาตรฐานอาคารที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างสุขภาวะที่ดีของผู้อาศัยภายในอาคาร แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในการออกแบบเพื่อสุขภาวะและความยั่งยืน ทั้งนี้ RISC มุ่งมั่นในการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุด เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวงการอสังหาริมทรัพย์ และเป็นที่ตั้งของ Eco Material Library ซึ่งมีการรวบรวม แสดงรายละเอียดและตัวอย่างวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกว่า 500 รายการ