UNCGชี้ธุรกิจยั่งยืนมูลค่าตลาด12ล้านล้านดอลลาร์ แบรนด์ชั้นนำปรับกลยุทธ์สื่อสาร หวังนั่งในใจผู้บริโภค

by ESGuniverse, 16 กุมภาพันธ์ 2567

UNGC ประเมินธุรกิจยั่งยืนกำลังสร้างผลกระทบต่อตลาด คาดมูลค่าขยายตัวถึง 12ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ แบรนด์ดังตบเท้าปรับกลยุทธ์ยั่งยืน สื่อสารไม่ขายของกระหน่ำ Hard-Sell เชื่อมหลากหลายStakeholers เข้าใจคนเจนใหม่ ใส่ใจรักษ์โลก

 

 

 

 

UNGC ชี้ตลาดด้าน ความยั่งยืน

โต 12ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐ ในปี 2573

จากการศึกษาของ UN Global Compact พบว่า ภายในปี 2573 การดำเนินงานด้านความยั่งยืนจะสร้างมูลค่าทางการตลาดได้มากกว่า 12 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และแบรนด์ที่เป็นผู้นำในวันนี้ มุ่งสื่อสารกับผู้บริโภคในวงกว้างและไม่ Hard-Sell นโยบายความยั่งยืน แต่เลือกที่จะเชื่อมกับผู้บริโภคที่มีความหลากหลายด้วยการสื่อสารที่เข้าถึงแบบ Personalize กับแต่ละ segmentation ผ่านความคิดสร้างสรรค์

 

  

 


100 แบรนด์ชั้นนำ
สร้างภาพจดจำยั่งยืนเพียง 2%

ศศิภาส์ มงคลนาวิน ผู้อำนวยการกลุ่มฝ่ายกลยุทธ์ โอกิลวี่ ประเทศไทย กล่าวว่า เป็นที่น่าสนใจว่า จาก 100 แบรนด์ชั้นนำที่มีมูลค่าสูงสุดระดับโลก ในปี 2566 มีเพียง 2% เท่านั้นที่สามารถสร้างภาพจำด้านความยั่งยืนในสายตาผู้บริโภค

"แม้ธุรกิจจะมีความแข็งแกร่งในแง่แบรนด์ (Strong Core Branding) แต่ไม่ได้หมายความว่าจะสร้างการรับรู้ว่าเป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญด้านความยั่งยืน (Strong Sustainability Perceptions) ในสายตาผู้คนได้เสมอไป

การสร้างแบรนด์ และการสื่อสารผ่านแคมเปญที่สร้างผลลัพธ์ด้านความยั่งยืนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ที่จะทำให้เกิดความแตกต่างและภาพจำที่ชัดเจน เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต"

 

  

 


Sustainability & Creativity for Impact

โอกิลวี่ ประเทศไทย โชว์ Capabilities ใหม่ “Sustainability & Creativity for Impact” ชวนพันธมิตรด้านความยั่งยืนและลูกค้า ปั้นแรงบันดาลใจ สู่แรงบันดาลจริง ผ่านการสร้าง Social Impact หนุนธุรกิจให้เติบโตไปด้วยกัน

 

 

จิรวรา วีรยวรรธน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โอกิลวี่ ประเทศไทย เปิดมุมมองว่า “ความยั่งยืน” หรือ “Sustainability” หรือประเด็นด้านความยั่งยืน คือสิ่งที่สังคมโลกกำลังให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก มีการกระตุ้นให้ธุรกิจ แบรนด์ และหน่วยงานต่างๆ ต้องปรับกลยุทธ์การดำเนินงานเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง

แบรนด์ที่ให้ความสำคัญ เอาใจใส่ประเด็นความยั่งยืนจะสามารถจูงใจให้ผู้คนรู้สึกดีต่อแบรนด์และธุรกิจได้จริง และความคิดสร้างสรรค์ไม่ได้มีประโยชน์เพียงการสร้างแบรนด์ การขายของ หรือสร้างการเติบโตทางธุรกิจ แต่ยังใช้แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับผู้คนและสังคมที่ซับซ้อนท้าทายได้อีกด้วย

ประเทศไทย มีธุรกิจและแบรนด์จำนวนมากที่มีผลงานด้าน ESG ที่โดดเด่น สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกได้อย่างเป็นรูปธรรม ทว่ายังมีความท้าทายในการนำเรื่องราวดังกล่าวมาสื่อสารเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับผู้คนและสังคม

 


พลังเปลี่ยนแปลงเชิงบวก
แรงผลักแบรนด์ยืนโดดเด่น


ศุภศิษฏ์ โชคมงคลเสถียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายกลยุทธ์ ระบุว่า ทุกวันนี้ การพัฒนาแบรนด์ให้กับแต่ละองค์กรมีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลัก (Key Stakeholders) มีมากขึ้น ทุกภาคส่วนมองหาจุดยืนด้านความยั่งยืนและผลกระทบเชิงบวกที่แบรนด์สร้างขึ้น การมีความคิดสร้างสรรค์ที่ดี จะช่วยให้สามารถทำงานกับกลุ่มเป้าหมายได้หลากหลาย แก้ปัญหาได้มากกว่าเพียงเรื่องเดียว พัฒนาแบรนด์ และชื่อเสียงขององค์กรในระยะยาวได้

 ที่ผ่านมา โอกิลวี่ ประเทศไทย ได้ร่วมกับลูกค้าสร้าง Impact ต่อสังคมโลกผ่านแคมเปญสร้างสรรค์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นแคมเปญ “กาแฟที่แฟร์กับคนทั้งโลก” ของ Café Amazon ผ่านการนิยามมาตรฐานความยั่งยืนใหม่ในอุตสาหกรรมกาแฟ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ หรือช่วยส่งเสริมให้ทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงสู่ความเป็นตัวเองที่ดีขึ้น

ต้องยอมรับว่า ไม่มีธุรกิจหรืออุตสาหกรรมใดที่สามารถเดินหน้าเพื่อบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนได้เพียงลำพัง การร่วมมือกันคือสิ่งสำคัญที่จะพาเราก้าวเดินไปสู่ผลสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

 


พันธมิตรด้านความยั่งยืนจากหลากหลายภาคส่วน

แบ่งปันมุมมองและประสบการณ์


คุณ เสกสรร รวยภิรมย์ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิสติ (SATI Foundation) กล่าวว่า “ผมไม่ได้มองว่า Social Impact และ Sustainability เป็นเรื่องที่ต้องแยกหรือเพิ่มจากสิ่งที่แบรนด์หรือธุรกิจทำ แต่มันรวมอยู่ในแผนธุรกิจได้เลย ซึ่งจะสามารถทำได้แบบยั่งยืน ต่อเนื่อง

 โดยผมใส่แนวคิดนี้ลงไปในกิจการของตัวเอง เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าการพัฒนาธุรกิจให้มีอิมแพ็คต่อสังคมนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จริง

 โดยหัวใจสำคัญ คือ Long Term Commitment การใช้ Data-Tracking ในการเก็บข้อมูล Social Impact ที่ทำไป"

ซึ่งมูลนิธิสติ ก็ตั้งใจสร้างและใช้ Dashboard รวมถึง Real-time Tracking เพื่อวัดผลงานบนโปรเจ็คต์ที่เราทำอย่างต่อเนื่อง พร้อมปรับแผนงานให้บรรลุเป้าหมายที่เราวางไว้”

 

คนรุ่นใหม่ ให้ใจกับแบรนด์รักษ์โลก

คุณ ธนบูรณ์ สมบูรณ์ ผู้ก่อตั้ง Greenery คอมมูนิตี้ผู้บริโภครุ่นใหม่ที่สนใจการใช้ชีวิตที่ยั่งยืน และยังเป็นผู้ก่อตั้ง CreativeMOVE องค์กรนวัตกรรมสังคม กล่าวว่า

 “คนมักถามผมว่า คนยุคนี้สนใจความยั่งยืนจริงหรือ พร้อมที่จะจ่ายเพื่อความ Sustainable ผมก็จะตอบตลอดว่าจริง เพราะเดี๋ยวนี้ GEN Y ให้ความสำคัญ เรื่องความยั่งยืนและการรักษ์โลกมากขึ้น “

 

เจนZฉลาดเลือก
ยั่งยืน ไม่ใช่แค่เคลม ปลูกต้นไม้

ส่วน GEN Z ก็มีความภูมิใจที่ได้ซื้อ ได้ใช้ ได้โชว์ว่าเป็นส่วนหนึ่งในการซัพพอร์ตแบรนด์ที่ให้ความสำคัญและทำธุรกิจด้วยความยั่งยืน ทั้งยังสามารถสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคได้ จากประสบการณ์การทำ Marketing & Media และการเป็นที่ปรึกษาธุรกิจและแบรนด์เพื่อสังคมมากว่า11 ปี

“ ผมเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน จากแต่ก่อนที่ Brand ทำน้อยแต่พูดเยอะ ทุกวันนี้ consumer เก่งขึ้น เข้าใจเรื่องความยั่งยืนมากขึ้น ถ้าเพียงปลูกต้นไม้แล้วเคลมบนความยั่งยืน คนก็ดูออก ทุกวันนี้สำหรับแบรนด์คือ การทำจริง พูดดัง ส่งต่อแรงบันดาลใจ และชวนผู้คนมาร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน”

แม้หลายคนอาจรู้สึกว่าการสร้างการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องที่ยากและท้าทาย แต่เมื่อพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ ความรู้ ความเชี่ยวชาญจากแต่ละภาคส่วน ผนวกกับพลังแห่งการร่วมแรงร่วมใจ และลงมือทำจริง ไม่ว่าโจทย์นั้นจะยากและท้าทายแค่ไหน เราจะสามารถทำภารกิจนั้นให้สำเร็จลุล่วงได้