ฟังชัด..ชัด! ทำไมแรงงงานเมียนมาไม่กลับบ้าน

by ThaiQuote, 22 มิถุนายน 2559

การเดินทางกลับมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศ สหภาพเมียนมา ระหว่างวันที่ 23-25 มิ.ย. 2559 นี้ และมีกำหนดการเยี่ยมแรงงานเมียนมาในวันที่ 23 มิถุนายนที่ตลาดทะเลไทย จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งมีแรงงานเมียนมา 2-3 แสนคน  จึงถูกจับตามองว่าเป็นการกลับมาเพื่อพาแรงงานกลับบ้านหรือเปล่า

ดร.ปรีชา ศิริแสงอารำพี ประธานหอการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผย สำนักข่าว THAIQUOTE ว่าการกลับมาของซูจีครั้งนี้เป็นการกลับมาในฐานะผู้นำประเทศ โดยส่วนตัวคิดว่าซูจีคงมาเยี่ยมเยียนความเป็นอยู่ของแรงงานเมียนมาว่ามีสิ่งใดต้องปรับปรุงอำนวยความสะดวกมากกว่าจะมาชักชวนให้กลับบ้าน ยกตัวอย่างการออกใบอนุญาตให้แรงงานเมียนมา ซึ่งที่ผ่านมามีปัญหาค่อนข้างมาก เพราะการพิสูจน์สัญชาติล่าช้า ถ้าหากรัฐบาลทั้งสองประเทศร่วมมือกันอย่างจริงจัง เร่งออกใบพิสูจน์สัญชาติ เร่งออกใบอนุญาต ก็จะเป็นผลดีต่ออุตสาหกรรมทั้งระบบ รวมถึงอยากเรียกร้องให้เปิดจุดผ่านแดนถาวร ณ ด่านสิงขร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อส่งเสริมค้าการลงทุนระหว่างนักธุรกิจในสมุทรสาครกับนักธุรกิจในเมืองมะริด ประเทศเมียนมา เพราะเมืองมะริดเป็นแหล่งผลิตอาหารทะเลขนาดใหญ่ ส่วนไทยมีความรู้ด้านการแปรรูป มีนวัตกรรมการผลิต หากร่วมมือกันได้จะเป็นโอกาสของทั้งสองประเทศ โดยนำวัตถุดิบจากเมืองมะริดเข้ามามาทางด่านสิงขร ซึ่งปัจจุบันด่านนี้เป็นจุดผ่อนปรนพิเศษ เปิดเป็นบางครั้ง ถ้าปรับเป็นจุดผ่านแดนถาวรจะสร้างมูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศได้มหาศาล

ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรสาครยังกล่าวถึงการลงพื้นที่พูดคุยกับแรงงานเมียนมาว่าอยากทำงานอยู่ในเมืองไทย หรือว่าอยากกลับไปทำงานในเมียนมา ทุกคนพูดเหมือนกันหมดว่าอยากอยู่เมืองไทย เนื่องจากมีความสุข รายได้ดี มีสวัสดิการการรักษาพยาบาล การศึกษา ฯลฯ เทียบเท่าแรงงานไทยทุกประการ ประกอบกับค่าแรงขั้นต่ำยังเป็นแรงจูงใจสำคัญ ซึ่งค่าแรงขั้นต่ำในเมียนมาเฉลี่ย 50-100 บาทต่อวันเท่านั้น จึงเชื่อว่าแรงงานเมียนมาในจังหวัดสมุทรสาครยังคงทำงานต่อเนื่องอีกหลายปี

ด้านนายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า กรณีดังกล่าวไม่น่าเป็นห่วง เพราะเชื่อว่าโรงงานของไทยมีการดูแลแรงงานต่างด้าวอย่างดี ในขณะที่ประเทศเมียนมาเองก็ยังไม่ได้มีการจ้างงานมากนัก หากเทียบกับการทำงานในประเทศไทยแล้ว แรงงานเมียนมาจะได้รับโอกาสการจ้างงานที่ดีกว่ากลับไปทำงานในเมียนมา