นำร่องคืน Vat ผู้ถือบัตรสวัสดิการ พ.ย.นี้

by ThaiQuote, 27 สิงหาคม 2561

โดยหลังจากได้เปิดให้กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-Wallet) ใช้บริการผ่านพร้อมเพย์  พบว่ามีการโอนเงินเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 17 หรือมียอดเงินสะสมถึง 1.9 ล้านล้านบาท จึงต้องการดึงบริการทางการเงินทุกด้านที่แบงก์พาณิชย์ร่วมกันสร้างขึ้นมาเหมือนกับทางด่วนทางการเงินมาใช้บริการให้มากขึ้นผ่านช่องทางพร้อมเพย์ และยังเปิดทางให้ภาคเอกชนจ่ายค่าน้ำ ไฟฟ้า ประปา ผ่านระบบพร้อมเพย์โดยไม่คิดค่าธรรมเนียม  ยอมรับว่าเคาน์เตอร์เซอร์วิสของเอกชนอาจได้รับผลกระทบ แต่ต้องปรับตัวรองรับบริการทางการเงินที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตลอดจนการส่งเสริมให้ร้านค้ารายย่อยที่ไม่ได้ติดตั้งเครื่อง EDC เพื่อรูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โหลดแอปพลิเคชั่น QR-Code กับธนาคารกรุงไทย โดยมีร้านค้าสมัครแล้ว 15,000 รายอนุมัติไปแล้ว 7,000 ราย คาดว่าสิ้นปีนี้จะมียอดร้านค้ากระจายทั่วประเทศสมัครกับธนาคารกรุงไทยนับแสนราย เพื่อความสะดวกในการใช้บัตรสวัสดิการของผู้มีรายได้น้อย นายอภิศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากรัฐบาลได้มีนโยบายโอนเงินคืนให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ เพื่อซื้อสินค้าผ่านบัตรร้อยละ 7 คาดว่าจะเริ่มใช้ได้ในวันที่ 1 พ.ย.นี้ และอาจขยายเวลาจัดทำโครงการให้มากกว่าเดิมที่กำหนดไว้ 3 เดือนช่วงท้ายปี รวมถึงการส่งเสริมใช้จ่ายเงินผ่านระบบ E-Payment จะหักภาษี ณ ที่จ่ายลดลงจากปกติร้อยละ 3 หรือร้อยละ 1-2 เพื่อส่งเสริมให้ใช้จ่ายอ่านออนไลน์ รวมไปถึงการบริจาคให้กับวัด โรงเรียน โรงพยาบาล ผ่านระบบโอนเงินพร้อมเพย์ เมื่อขอคืนภาษีเงินบริจาคประจำปีจะไม่ต้องใช้เอกสารขอคืน เพราะมีข้อมูลหลักฐานแล้ว ลดปัญหาเงินทอนวัด หรือการทุจริตขอใบเสร็จจากองค์กร มูลนิธิ และจะสะดวกในการติดตามการฟอกเงิน หรือการทุจริตรูปแบบต่างๆ แต่ยอมรับว่าอาจต้องใช้เวลาปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพราะชาวบ้านต่างจังหวัดอาจไม่คุ้นเคยการบริจาคผ่านพร้อมเพย์ จะมีแต่คนระดับกลาง ทำงานในสำนักงาน องค์กรต่างๆ ที่นิยมใช้จ่ายผ่านออนไลน์