สมพงษ์ แท็กซี่ลวงโลก หากเอ่ยถึงกรณีลวงโลก หลายคนย่อมนึกถึงเรื่องแท็กซี่เก็บเงินแสนคืนเจ้าของ กรณีนายสมพงษ์ เลือดทหาร ได้ปลอมตัวเป็น รปภ.สนามบินดอนเมือง โทรศัพท์เข้าไปยังสถานีสถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน (FM 99.5 MHz) อ้างว่าเห็นแท็กซี่เก็บกระเป๋าผู้โดยสารชาวฝรั่งเศสขนาดใหญ่ 2 ใบ และกระเป๋าถืออีก 2 ใบ พบว่าภายในบรรจุเงินสดจำนวนมากและโฉนดที่ดินจำนวนหนึ่ง โดยได้ส่งกระเป๋าคืน ทำให้ได้รับเสียงชื่นชมอย่างกว้างขวาง แต่แล้วก็มีคนเริ่มสงสัย ตั้งข้อสังเกตต่างๆ พล.ต.ต.กว้าง ชาญศิลป์ ผู้กำกับการตำรวจท่องเที่ยวในเวลานั้น ได้เปิดเทปบันทึกดูบริเวณอาคารผู้โดยสารขาออกต่างประเทศ ในวันและเวลาตามที่นายสมพงษ์กล่าวอ้าง ผลปรากฏว่าไม่พบรถแท็กซี่ของนายสมพงษ์และเหตุการณ์ดังที่นายสมพงษ์กล่าวอ้าง และสามารถพิสูจน์ได้ว่า รปภ.ที่โทร.มาแจ้งเหตุก็คือนายสมพงษ์ที่ปลอมเสียง และทำให้นายสมพงษ์ ถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 3 ปี แต่จำเลยให้การรับสารภาพจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือ 1 ปี 6 เดือน แต่ด้วยความประพฤติที่เรียบร้อยเป็นนักโทษชั้นดี ทำให้นายสมพงษ์ ติดคุกเพียง 1 ปี 2 เดือน และศาลยังพิพากษาให้คืนเงินรางวัลที่ได้รับมาจำนวนเงินประมาณ 200,500 บาท เปรตอาจารย์กู้  ผจญภัยคำชะโนด! ช่วงปี 2543 กรณีเปรตอาจารย์กู้ ก็เป็นเรื่องลวงโลกที่คนสนใจอย่างมาก เพราะเกี่ยวพันไปถึงเรื่องความเชื่อทางศาสนา   ความคึกโครมของเรื่องนี้เกิดขึ้นในงานส่งเสริมพระพุทธศาสนา ท้องสนามหลวง มีการเปิดเผยวิดีโอโดยพระนักเทศน์ชื่อดัง ซึ่งได้มาจากนายแพทย์นักพูดแนวธรรมที่มีชื่อเสียงในสังคม ที่ลงทุนไปค้นหากับอาจารย์กู้ ผู้ขมังเวทย์ของเขา ทำให้คนสนใจเป็นจำนวนมาก แต่เพราะมีวิดีโอ ทำให้เกิดการจับผิดอย่างกว้างขวาง และนักถ่ายสารคดีชื่อก้องที่เพิ่งลาลับได้ตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการจัดฉาก  เมื่อสาวไปสืบมากลับพบว่า อาจารย์กู้ คือนักต้มตุ๋น มีชื่อจริงๆ นายกิตติ ปภัสโรบล บ้านเกิดอยู่ที่ ต.หนองกลางนา อ.เมืองราชบุรี มักจะปลอมตัวเป็นพระ หลอกกระทั่งนายพลมาแล้ว เมื่อรู้ความจริงตำรวจจึงออกตามหาตัว และรวบอาจารย์กู้ได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านรัชดา เมื่อจับได้ตำรวจก็ให้แสดงฤทธิ์ที่อวดอ้างต่อหน้าสื่อมวลชน แต่ทำไม่ได้ ศาลชั้นต้นจึงพิพากษาลงโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 6,000 บาท แต่คำสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลย 8 เดือน ปรับ 4,000 บาท แต่เนื่องจากไม่เคยทำผิดมาก่อน และมีภาระต้องดูแลบุตร จึงให้โอกาสกลับตัวเป็นคนดี โทษจำคุก รอลงอาญาไว้ 2 ปี  ถัดมาทั้งศาลอุทธรณ์และศาลฎีกามีคำสั่งยกฟ้อง นาธาน โอร์มาน จากนักร้องสู่คนโกหก! อีกบริบทตำนานลวงโลก คือเรื่องของนาธาน โอร์มาน อดีตนักร้องดัง  ซึ่งได้กุเรื่องเกี่ยวกับชาติกำเนิดของตน ที่พยายามบอกสังคมว่าเป็นคนเชื้อสายเนปาล และได้เขียนหนังสือประสบการณ์ชีวิตวัยเด็กมาถึง 2 เล่ม แต่ในความเป็นจริงแล้วพ่อและแม่เป็นคนไทยชาวภาคใต้ เริ่มต้นการลวงโลกของเขา คือการพรีเซนต์ตัวเองว่าได้ไปถ่ายภาพยนตร์กับทางฮอลลีวูดเรื่อง The Prince Of Red Shoe ของบริษัทบิ๊กบลู ในเครือค่ายทเวนตี้ เซ็นจูรี ฟอกซ์ ซึ่งมี วูล์ฟกัง ปีเตอร์เซน และ มูฮำหมัดซูอัต เป็นผู้กำกับ โดยแสดงร่วมกับดาราดังอย่าง บรูซ วิลลิส และ คริสตินา ริชชี ถ่ายทำในหลายที่ เช่น ประเทศจอร์แดน, อิหร่าน, โอมาน และหลายๆ  เมืองในแถบตะวันออกกลาง แต่เมื่อมีการสืบค้นข้อมูล ทั้งจากเว็บไซต์ IMDb ทวิตเตอร์ของนักแสดงที่นาธานอ้างถึง ตลอดจนหลักฐานอื่นๆ กลับไม่มีสิ่งยืนยันว่า นาธานแสดงภาพยนตร์ตามที่กล่าวอ้าง จึงได้กลายเป็นหัวข้อถกเถียงในอินเทอร์เน็ตว่านาธานพูดโกหกหรือไม่ และยังรวมถึงประวัติของนาธานที่เขาเคยให้สัมภาษณ์ไว้ด้วย ต่อมา 2 ธันวาคม พ.ศ.2553 ในการบันทึกเทปสัมภาษณ์กับรายการ วู้ดดี้เกิดมาคุย เขายอมรับว่าเขากุเรื่องในการแสดงภาพยนตร์ฮอลลีวูดรวมถึงเรื่องราวทั้งหมดของตน โดยอ้างว่าที่ทำไปทั้งหมดนั้น ก็เพราะผู้สนับสนุนตนในวงการบันเทิง ต้องการสร้างตัวตนของตนให้เป็นแบบนั้น ให้มีชีวิตที่น่าทึ่ง เป็นเด็กอัจฉริยะสามารถพูดได้หลายภาษา เป็นต้น รวมทั้งนาธานเจอกรณีฉ้อโกงเงินหลายคดี จนมีความกับน้ามด และถูกศาลจังหวัดเลย ได้ตัดสินให้นาธานจำคุกเป็นเวลา 2 ปี แต่เจ้าตัวรับสารภาพ จึงลดโทษให้ครึ่งหนึ่ง เป็นจำคุก 1 ปี พร้อมทั้งให้ชดใช้เงินน้ามดทั้งหมด ต่อมาได้รับพระราชทานอภัยโทษ เนื่องในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ จึงพ้นโทษเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2554 มิ้งโป๊ะแตก เคสล่าสุดที่ได้รับความสนใจไม่น้อย กับเรื่องของ มิ้งค์ ศวภัทร สุนทรนันท์ ที่ออกมาแถลงข่าวกับอดีตแฟนหนุ่มกัปตัน ชลธร คงยิ่งยง ระบุว่าตนท้อง ทำให้สังคมแตกเป็น 2 ฝ่ายในช่วงแรก จนต่อมาด้วยความไวของปีศาจที่สิงในโซเชียล พยายามขุดคุ้ยเรื่องราวต่างๆ ของมิ้ง จนสามารถจับได้ว่ามิ้งมีแนวโน้มที่จะโกหก ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะปากแข็งยืนกรานว่าตนท้องและตามมาด้วยเหตุการณ์แท้งของเธอ ยิ่งทำให้โลกโซเชียลเรียกเธอว่า “มิ้งโป๊ะแตก” ทำให้ฝ่ายกัปตันฟ้องกลับ จนสุดท้าย มิ้งและกัปตันได้ขึ้นศูนย์ประนอมข้อพิพาท ศาลอาญา เพื่อไกล่เกลี่ยคดี หลังจากอดีตแฟนหนุ่ม กัปตัน ชลธร คงยิ่งยง ได้ฟ้องศาลกรณีหมิ่นประมาท มิ้งค์สารภาพต่อสื่อมวลชนว่า การไกล่เกลี่ยเรียบร้อยดี ตกลงเข้าใจกันดี และออกมาพูดความจริงเรื่องตั้งครรภ์ว่าไม่เป็นความจริง ที่ทำไปเพราะว่า รักกัปตันมาก มีความผูกพันหลายๆ อย่าง อยู่ในช่วงที่ไม่อยากเสียไป เลยทำไปโดยไม่ได้คิดให้ดีก่อน โดย วรกร เข็มทองวงศ์