เอเอฟพี รายงานว่า เมื่อถึงปี 2025 หุ่นยนต์จะเข้ามารับผิดชอบงาน 52 % ของงานทั้งหมดในปัจจุบัน เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจากในตอนนี้ งานวิจัยของ World Economic Forum (WEF) เผยในวันนี้ (17)   การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้อาจทำให้เกิดผลประโยชน์สุทธิจากบทบาทใหม่ของมนุษย์ซึ่งจะต้องปรับปรุงทักษะเพื่อตามให้ทัน “ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่” ในการทำงานร่วมกับเครื่องจักรและโปรแกรมคอมพิวเตอร์   “ในปี 2025 กว่าครึ่งของงานทั้งหมดในปัจจุบันจะถูกรับผิดชอบโดยเครื่องจักร โดยปัจจุบันเครื่องจักรมีบทบาทในสัดส่วน 29 %ในขณะเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วในเครื่องจักรและอัลกอริทึม หรือกระบวนการคอมพิวเตอร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหา “อาจทำให้เกิดงานใหม่ 133 ล้านงานแทนที่ 75 ล้านงานที่จะถูกแทนที่ระหว่างตอนนี้ถึงปี 2022 ” WEF ระบุ     WEF ที่มีสำนักงานใหญ่ใกล้เจนีวา มีชื่อเสียงจากการประชุมประจำปีของเหล่าผู้มั่งคั่ง นักการเมือง และผู้นำทางธุรกิจที่พวกเขาจัดขึ้นในเมืองดาโวสของสวิตเซอร์แลนด์   รายงานของพวกเขา The Future of Jobs 2018 คาดการณ์ว่า หุ่นยนต์จะเข้ามาแทนที่มนุษย์อย่างรวดเร็วในสายงานบัญชี ,การจัดการลูกค้า ,อุตสาหกรรม ,ไปรษณีย์ และเลขานุการ   อาชีพที่จำเป็นต้องใช้ “ทักษะของมนุษย์” เช่น ที่ปรึกษาการขาย นักการตลาด และเจ้าหน้าที่บริการลูกค้าน่าจะได้เห็นการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ เช่นเดียวกับอี-คอมเมิร์ซและสื่อสังคมออนไลน์   ความท้าทายใหญ่หลวงคือการฝึกฝนแรงงานซึ่งจะถูกกดดันให้ต้องพัฒนาทักษะโดยเฉพาะในด้าน “ความคิดสร้างสรรค์ การคิดวิเคราะห์ และการจูงใจ” งานวิจัย ระบุ   งานวิจัยนี้  สำรวจผู้บริหารงานบุคคลและผู้บริหารอาวุโสจากหลายบริษัททั่วโลก ที่มีผลประกอบการคิดเป็นร้อยละ 70 ของผลประกอบการทั่วโลก   ในระหว่างช่วงเวลาปัจจุบันถึงปี 2022 พวกเขาเชื่อว่า ภาคการบิน การเดินทาง และการท่องเที่ยวจะต้องฝึกฝนแรงงานเพิ่มเติม และเผชิญแนวโน้มสู่การเรียนรู้และการปรับตัวตลอดชีวิต   ในขณะเดียวกัน หลายรัฐบาลได้รับคำแนะนำให้ตระเตรียมเครือข่ายความปลอดภัยให้กับแรงงานและชุมชนต่างๆ ที่ถูกคุกคามจากสิ่งที่ WEF สรุปว่าเป็น “ความเปลี่ยนแปลงสำคัญ” ในด้านคุณภาพและความยั่งยืนของงานใหม่เหล่านี้