เกิดเรื่องฮือฮา หลังจากกำลังตำรวจกองปราบปราม ที่นำโดย พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้กำกับการ 5 กองปราบปราม (ผกก.5 บก.ป.) เข้าจับกุมนายบุญฤทธิ์ ครุฑละออง อายุ 54 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตามหมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยจับกุมได้ที่ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 5 พ.ย.2561 การจับกุมคนร้ายเพื่อมาดำเนินคดีก็น่าจะเป็นเรื่องปกติของการทำงานสำหรับตำรวจอยู่แล้ว แต่ที่ไม่ปกติสำหรับคดีนี้ นั่นเพราะคนร้ายหนีคดีกบดานนานเกือบ 20 ปีเต็ม และอีก 1 เดือนข้างหน้าคดีก็จะหมดอายุความแล้ว ที่น่าสนใจคือ หนึ่งในชุดจับกุม ก็ปรากฎชื่อของ ส.ต.ต.อัษฎาวุฒิ มากประดิษฐ์ ผบ.หมู่ กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ภูธรภาค 8 ที่เป็น "ลูกชาย" ของผู้เสียชีวิตในคดีนี้ ร่วมทีมจับกุมคนที่ฆ่าพ่อตัวเองตายเมื่อ 20 ปีก่อนได้ด้วย พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. เปิดเผยว่า คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว หรือช่วงต้นเดือน ธ.ค.2541 ผู้ต้องหาคือนายบุญฤทธิ์ พร้อมพวกก่อเหตุจี้ชิงรถบรรทุก และได้ฆ่า นายประสิทธิ์ แซ่อื้อ และ นายชาณี ทองหญีต ก่อนนำศพไปทิ้งในสระน้ำริมทาง บ้านท่าตะเภา ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี โดยศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ออกหมายจับ ที่ 786/2551 ลงวันที่ 22 ก.ย.2551 ซึ่งคดีกำลังจะหมดอายุความ ในวันที่ 2 ธ.ค. 2561 ช่วงเกิดเหตุ ภรรยาของหนึ่งในผู้เสียชีวิตคือนายประสิทธิ์ กำลังตังครรภ์เมื่อบุตรชายคลอดออกมา ก็คือ ส.ต.ต.อัษฎาวุฒิ มากประดิษฐ์ เติบโตขึ้นมาก็สอบเข้าบรรจุเป็นตำรวจ และพยายามสืบหาเบาะแสคนร้ายที่ฆ่าพ่อของตัวเองตาย กระทั่งทราบแหล่งกบดานและนำไปสู่การจับกุมได้เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา ด้านส.ต.ต.อัษฎาวุฒิ กล่าวว่า ได้รบเร้าถามแม่ถึงสาเหตุการตายของพ่อ กระทั่งแม่ยอมเปิดเผยความจริงว่า พ่อถูกคนร้ายฆ่าตาย ก่อนกล่าวว่า พ่ออยากให้ตนเป็นตำรวจ ต่อมาเมื่อปี 2560 จึงสอบบรรจุเข้ารับราชการตำรวจ และสามารถสอบได้ในที่สุด "ที่ผ่านมา พยายามสืบเสาะหาเบาะแสคนร้ายที่ฆ่าพ่อจนทราบว่ามี 3 คน อีก 2 คนถูกจับแล้ว ยังเหลือนายบุญฤทธิ์ ครุฑละออง ที่หลบหนีไปกบดานในประเทศมาเลเซีย กระทั่งต่อมาพอทราบว่าคนร้ายกลับเข้ามาในพื้นที่ ผมจึงประสานกับกองปราบปราม จนสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด" ส.ต.ต.อัษฎาวุฒิ กล่าว   ขอบคุณภาพจาก เพจชมรมนักข่าวกองปราบปราม