วันที่ 29 พ.ย.2561 นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า หลังหารือกับเทศกิจทั้ง 50 เขต เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหารถจักรยานยนต์ขับขี่บนทางเท้า ได้ข้อสรุปว่า จะต้องเพิ่มมาตรการให้เข้มงวดขึ้น โดยจะปรับเพิ่มอัตราค่าผู้ขับขี่บนทางเท้า จากอัตราต่ำสุด 500 บาทเป็น 1,000 บาท ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เนื่องจากเชื่อว่าการบังใช้กฎหมายอย่างจริงด้วยค่าปรับที่สูงขึ้น จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าสังคมไทยเป็นสังคมที่อะลุ่มอล่วย ทำกันมานาน เอาแต่ความสะดวก แต่ก็เชื่อว่ากฎหมายที่เข้มงวดจะไม่ทำให้ผู้กระทำผิดเป็นประจำไม่กล้าทำผิดอีก "แต่หากปรับ 1,000 บาทแล้วยังไม่เห็นผล ก็จะเพิ่มค่าปรับให้สูงขึ้นอีก รวมถึงให้ยึดรถจักรยานยนต์กับผู้ที่ไม่ยอมจ่ายค่าปรับ และจะคืนให้จนกว่าจะจ่ายค่าปรับ" นายสกลธี กล่าว รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ที่ผ่านมากทม.ก็ดำเนินการจับปรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้ามาโดยตลอด และสามารถจับผู้กระทำผิดได้กว่า 1 หมื่นคน ปรับเป็นเงินไปแล้วกว่า 4 ล้านบาท แต่ผู้กระทำผิดก็ไม่ลดลงแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม แม้สังคมจะมองว่าเทศกิจไม่ทำหน้าที่กวดขัน แต่ก็อยากให้มองอย่างเป็นธรรมบ้าง เพราะกทม.เองก็มีเจ้าหน้าที่จำกัด แต่ละเขตมีเทศกิจราว 50-60 คนเท่านั้น ขณะที่กรุงเทพฯ มีถนน และตรอกซอกซอยจำนวนมาก จึงไม่อาจจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปควบคุมได้ตลอด 24 ชั่วโมง นายสกลธี กล่าวอีกว่า ในที่ประชุมยังหารือกรณีจุดจอดรถจักรยานยนต์รับจ้าง (วินมอเตอร์ไซค์) จากเดิมที่กำหนดให้จอดบนทางเท้าเพื่อแก้ไขปัญหากีดขวางการจราจรในบางจุด แต่วันนี้ได้มอบนโยบายสำนักเทศกิจ สำรวจทางเท้าที่มีขนาดกว้าง ดำเนินการปาดเกาะ เหมือนจุดจอดรถแท็กซี่ ไม่ให้รถจักรยานยนต์รับจ้างนำยานพาหนะไปจอดบนทางเท้าหรือกีดขวางการจราจรบนถนน เบื้องต้นสำรวจ 50 เขต พบมีจำนวน 400 จุด ส่วนทางเท้าที่มีขนาดแคบ ต้องหาทางแก้ไขในระยะยาว เช่น ย้ายจุดจอดหรือขอใช้พื้นที่เอกชน แต่คงไม่สามารถจะยกเลิกวินรถจักรยานยนต์ได้ เพราะจะเกิดปัญหากับประชาชน.